
© 2017 Copyright - Haijai.com
เลือกน้ำมันอย่างไรได้สุขภาพ
บ่อยครั้งที่เรามักสับสนว่าจะเลือกใช้น้ำมันชนิดไหนในการทำอาหาร เพราะแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป คุณธิษณา จรรยาชัยเลิศ นักกำหนดอาหารวิชาชีพ แนะนำคุณสมบัติของน้ำมันแต่ละชนิดไว้ดังนี้
น้ำมัน |
SFA (%) |
MUFA (%) |
PUFA (%) |
จุดเกิดควัน (องศาเซลเซียส) |
น้ำมันหมู |
48 |
38 |
9 |
182 |
น้ำมันปาล์ม |
58 |
30 |
9 |
220 |
น้ำมันมะพร้าว |
85 |
6 |
2 |
232 |
น้ำมันถั่วเหลือง |
15 |
23 |
58 |
160 |
น้ำมันรำข้าว |
32 |
51 |
15 |
235 |
น้ำมันมะกอก (Extra Virgin) |
14 |
72 |
9 |
160 |
หมายเหตุ
SFA : Saturated Fatty Acid คือ กรดไขมันอิ่มตัว
MUFA : Monounsaturated Fatty Acid คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง
PUFA : Polyunsaturated Fatty Acid คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง
เมื่อต้องเลือกซื้อน้ำมันมาประกอบอาหารในครั้งต่อไป ขอให้คุณผู้อ่านพิจารณาข้อมูลนี้ประกอบการตัดสินใจนะคะ
จุดเกิดควันคืออะไร
จุดเกิดควันคือ อุณหภูมิที่ทำให้น้ำมันกลายเป็นควัน หากต้องการปรุงอาหารโดยใช้ความร้อนสูง เช่น อาหารประเภททอด ควรเลือกน้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูง ทนความร้อน เพราะจะไม่สลายตัวกลายเป็นควันที่อุณหภูมิต่ำ ซึ่งจะทำให้สารอาหารในน้ำมันและวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารสูญสลาย เมื่อทอดนานน้ำมันอาจเปลี่ยนสี เหม็นหืน และอาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็งปนเปื้อนในอาหาร
น้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูง สามารถใช้ผัดและทอดได้ แก่ น้ำมันรำข้าว น้ำมันปาล์มโอเลอิน น้ำมันมะพร้าว น้ำมันหมู (ต้องระวังเรื่องการปนเปื้อนของยาและสารเคมีในกระบวนการเลี้ยง)
น้ำมันมะพร้าว ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว - สุขภาพ - Haijai.com
(Some images used under license from Shutterstock.com.)