© 2017 Copyright - Haijai.com
แก้ไขเบื้องต้นคนถูกงูกัด
เราคงเคยได้ยินกันมาว่าเวลาถูกงูกัด ให้นำเชือกมารัดเหนือแผลให้แน่นไปจนถึงขันชะเนาะ เพื่อป้องกันป้องกันพิษเข้าสู่หัวใจ หรือใช้ปากดูดพิษออก เพื่อลดปริมาณพิษที่เข้าสู่ร่างกาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกระทำเหล่านี้จะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี...
งูมีทั้งชนิดที่มีพิษและไม่มีพิษ พิษงูสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ 2 ลักษณะ
ลักษณะที่ 1 คือ ผลกระทบเฉพาะที่ ส่งผลให้บริเวณที่โดนกัดมีอาการปวดบวมหรือเนื้อเยื่อตาย
ลักษณะที่ 2 คือ ผลกระทบทั่วร่างกาย ซึ่งสามารถจำแนกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
• กลุ่มที่ 1 ผลต่อระบบเลือด โดยพิษจะส่งผลให้เลือดออกผิดปกติ และการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
• กลุ่มที่ 2 ผลต่อระบบประสาท ที่จะส่งผลให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายอ่อนแรง อาจมีอาการหนังตาตก กลืนลำบาก เหนื่อยหายใจไม่ไหว
• กลุ่มที่ 3 ผลต่อระบบกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลให้ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อสลาย ไปจนถึงอาจส่งผลให้ไตวายได้
เมื่อถูกงูกัดควรตั้งสติและพยายามจดจำลักษณะของงู หรือถ่ายรูป เพื่อจะสาสมารถรู้ชนิดและผลกระทบจากพิษของงู ถอดเครื่องประดับ เนื่องจากหลังจากโดนกัดอาจทำให้เกิดอาการบวม จากนั้นทำความสะอาดบาดแผล ห้ามใช้ปากดูดพิษจากแผลหรือใช้สมุนไพรใส่แผล เนื่องจากอาจทำให้แผลติดเชื้อได้ ทั้งนี้ควรพยายามให้ส่วนที่โดนกัดเคลื่อนไหวน้อยที่สุด อาจพันผ้ายืดบริเวณเหนือแผลและดามอวัยวะ ลดการเคลื่อนไหวเพื่อชะลอการซึมของพิษเข้าสู่ร่างกาย
อย่างไรก็ตามไม่ควรรัดแน่นจนเกินไป และห้ามขันชะเนาะ เพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นขาดเลือด ส่งผลให้เนื้อเยื่อตายได้ หลังจากนั้นให้รีบไปโรงพยาบาล แต่ถ้ามีอาการรุนแรงหลังถูกกัด เช่น ปากบวม หน้าบวม ผื่น หายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก หรือหมดสติ ไม่หายใจ ไม่มีชีพจร ให้กดนวดหัวใจ และรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
พญ.ฐิตินันท์ จงฐิตินนท์
(Some images used under license from Shutterstock.com.)