Haijai.com


กินยาผิดวิธี ทำร่างกายดื้อยาไม่รู้ตัว


 
เปิดอ่าน 3951

กินยาผิดวิธี ทำร่างกายดื้อยาไม่รู้ตัว

 

 

เชื่อแน่ว่าใครหลายคนคงคุ้นชินกันการเลือกซื้อยาบรรเทาอาการต่างๆ ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นยาแก้ปวด แก้มึนเมา หรือกระทั่งยาลดไข้ ลดหวัด หากเป็นเพียงอาการปวดหัวหรือปวดกล้ามเนื้อทั่วไป คงไม่ส่งผลระยะยาวอะไรมาก แต่หากอาการหนักขึ้น การบรรเทาเริ่มกลายเป็น “การรักษา” วิธีจ่ายยาย่อมต้องใช้ความชำนาญมากขึ้น จึงไม่แปลกที่การรับประทานยาด้วยตนเองในบางครั้ง กลับไม่ทำให้อาการเหล่านั้นทุเลาลงได้ ไม่ใช่เพราะฤทธิ์ยาไม่ดี แต่เป็นเพราะการรับประทานยาผิดวิธีเสียมากกว่า

 

 

รับประทานยาเท่าไร ไม่หายสักที เป็นเพราะอะไร

 

1.การซื้อยารับประทานเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะ ยาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อ หรือยาแก้อักเสบที่เราเรียกกัน ซึ่งมีฤทธิ์เพียงการแก้อักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ซึ่งจริงแล้ว เราสามารถรับประทานยาสามัญประจำบ้านเพื่อรักษาตนเองดูก่อนได้

 

 

แต่เมื่อรักษาด้วยตนเองไม่หายจึงควรพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยว่าเรารับประทานยาตรงกับโรค หรือเกิดจากการใช้ยารักษาที่ไม่ตรงกับโรคเป็นอยู่ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคนไข้ป่วยเป็นหวัด (ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัส) แต่รับประทนยาที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย หรือยาปฏิชีวนะเข้าไป ทำให้ไม่เกิดการตอบสนองต่อการรักษาโรคชนิดนั้นๆ และจะพาลเข้าใจว่าร่างกายดื้อยา หรือมีการติดเชื้อดื้อยาทำให้ต้องการยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์แรงหรือกว้างขวางกว่าเดิม

 

 

2.รับประทานยาโดยไม่จำเป็น เป็นกรณีที่พบได้บ่อย เนื่องจากคนไข้บางส่วนมักได้รับยาปฏิชีวนะจากแพทย์ หรือซื้อรับประทานเองโดยไม่จำเป็น หรืออีกกรณีหนึ่งคือการบริโภคยาปฏิชีวนะโดยไม่รู้ตัว เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อในปศุสัตว์ ยาเหล่านั้น ซึ่งมีการสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อสัตว์ จึงตกมาถึงกลุ่มผู้บริโภคด้วย

 

 

นอกจากนี้ระยะเวลาในการใช้ยาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการดื้อยาหรือติดเชื้อดื้อยาได้ เช่น รับประทานยาไม่ครบตามแพทย์สั่ง หรือรับประทานยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น กล่าวคือ หยุดยาเองเมื่อเห็นว่าอาการทุเลาลง โดยไม่ได้รับคำสั่งจากแพทย์ รวมถึงการรับประทานยาไม่เป็นเวลา หรือไม่ต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง เกิดเป็นการสะสมเชื้อดื้อยาในอนาคตได้ อีกทั้งปัจจัยร่วมจากตัวคนไข้เอง เช่น อายุ สุขภาพ และภูมิคุ้มกัน เป็นสิ่งสำคัญของการตอบสนองต่อการใช้ยารักษาชนิดนั้นๆ ด้วย

 

 

ยาแก้อักเสบ ไม่ใช่ ยาปฏิชีวนะ

 

การดื้อยาปฏิชีวนะมาจาก 2 สาเหตุใหญ่ คือ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในร่างกายที่ดื้อยาด้วยตัวเอง โดยมีการพัฒนาการดื้อยาจากสารพันธุกรรมของตนเอง หลังจากได้รับยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นมาเป็นเวลานาน หรือ การรับสารพันธุกรรมดื้อยามาจากเชื้อแบคทีเรียตัวอื่น ที่มีการดื้อยาอยู่ก่อนแล้ว โดยคนไข้ที่มีการดื้อยาส่วนใหญ่จะมาจากสาเหตุ จากการใช้ยารักษาแบบผิดๆ

 

 

ไม่เข้ากันกับโรคหรือเชื้อโรคชนิดนั้น ซึ่งคนไข้มักมีความเข้าใจว่า ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ (Antibiotics) คือ ยาแก้อักเสบ ทั้งที่ยาแก้อักเสบ คือ ยาต้านอักเสบ (Anti-inflammatory drugs) “ไม่ใช่ยาปฏิชีวนะ” เพราะยาปฏิชีวนะไม่มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ถ้าการอักเสบนั้นไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย

 

 

ตัวอย่างเช่น กล้ามเนื้อ และเอ็นอักเสบจากการเล่นกีฬา เป็นต้น แต่เรามักจะได้รับยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น ซึ่งส่วนใหญ่ คือ การได้รับยาปฏิชีวนะในการรักษาไข้หวัด และจากอาหารที่มีการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะ (จากการเลี้ยงสัตว์โดยใช้ยาปฏิชีวนะ หรือการใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคพืช ทำให้มีการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะในสิ่งแวดล้อม และทำให้เริ่มมีการตรวจพบแบคทีเรียที่มีการดื้อยาปฏิชีวนะ ในสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ)

 

 

ทำให้เกิดการส่งเสริมเชื้อแบคทีเรียทั้งในช่องปาก ลำไส้ และอวัยวะอื่นๆ เกิดการพัฒนาการดื้อยาขึ้นมาได้ ทั้งยังไม่ทำให้หายขาดจากโรคเดิมที่เป็นอยู่ด้วย เมื่อร่างกายเกิดได้รับเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคขึ้นมาจริงๆ แบคทีเรียที่รับเข้ามาใหม่ที่ไม่มีการดื้อยา มีการแลกสารพันธุกรรมกับแบคทีเรียที่มีการดื้อยาปฏิชีวนะ ที่อยู่ในร่างกายเราแต่ไม่ก่อโรคก็ส่งผลให้แบคทีเรียที่เรารับมาใหม่ เกิดการดื้อยาขึ้นมาได้เช่นกัน

 

 

ดังนั้น เราสามารถป้องกันการมีเชื้อดื้อยาในร่างกายได้ โดยไม่รับประทานยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น สำหรับผู้ที่มีประวัติเคยมีเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะมาก่อน เมื่อเลิกใช้ยาไปประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี เชื้อที่เคยดื้อยาอาจมีจำนวนลดลงจนหายไปได้ ยกเว้นแต่เรายังรับประทานยาชนิดนั้นอยู่เรื่อยๆ โดยไม่จำเป็น ก็ยังสามารถมีเชื้อดื้อยาอยู่ในร่างกายต่อไปได้ ดังนั้น เราไม่ควรรับประทานยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น

 

 

นพ.ไพศาล เตชะวลีกุล

อายุรแพทย์และอายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สาชาโรคติดเชื้อ

โรงพยาบาลกรุงเทพ

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ดูดไขมัน วิธีลดหน้าท้อง สลายไขมันด้วยความเย็น คอเลสเตอรอล วิธีลดไขมันหน้าท้อง ไขมัน วิธีลดพุงผู้หญิง Coolsculpting Elite CoolSculpting vs Emsculpt วิธีลดพุง สลายไขมันต้นขา ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt CoolSculpting บทความดูแลรูปร่างและสุขภาพ บทความกระชับสัดส่วนรูปร่าง บทความน่ารู้ romrawin รมย์รวินท์ ดูดไขมัน ดึงหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก บทความศัลยกรรม วีเนียร์ บทความทันตกรรม สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Fit Firm Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite บทความลดน้ำหนัก ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน บทความดูแลสุขภาพ Vaginal Lift P-SHOT O-Shot บทความสุขภาพเพศ Meso Hair LLLT ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ ปลูกผมผู้ชาย ปลูกผมสำหรับผู้หญิง ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม รักษาผมร่วง บทความรักษาผมร่วง ผมบาง บทความดูแลเส้นผม เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขน บทความเลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Reepot Laser Reepot บทความโปรแกรมหน้าใส NCTF 135 HA Rejuran Belotero Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra vs ฟิลเลอร์ Sculptra บทความ Sculptra Radiesse บทความ Radiesse บทความฉีดหน้าใส UltraClear AviClear Laser AviClear Accure Laser Accure บทความโปรแกรมรักษาสิว ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ บทความฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย บทความโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime อัลเทอร่า Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio บทความยกกระชับใบหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม บทความร้อยไหม Apex