Haijai.com


ใช้ยาให้ตาปลอดภัย


 
เปิดอ่าน 3828

ใช้ยาให้ตาปลอดภัย

 

 

ยาเป็นสิ่งที่มีทั้ง “คุณอนันต์” และ “โทษมหันต์” การใช้อย่างไม่เหมาะสมย่อมก่อให้เกิดผลเสียหลายอย่างต่อร่างกาย ดวงตานับเป็นเป้าหมายหนึ่งที่ถูกคุกคามจากการใช้ยาอย่างไม่เหมาะสม ยาบางชนิดอาจมีผลต่อสายตาได้ บทความนี้จะได้รวบรวมยาที่มีรายงานถึงอาการข้างเคียงต่อดวงตา อย่างไรก็ตามผู้อ่านพึงทราบว่าผู้เขียนมิได้มีเจตนาจะห้ามปรามหรือแนะนำให้เลิกใช้ยาเหล่านั้น ในกรณีที่มีข้อบ่งใช้ เมื่อมีข้อบ่งใช้ก็ควรใช้ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ เพียงแต่สังเกตและเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ยาเหล่านี้ ถ้าหากมีความผิดปกติใดๆ โดยเฉพาะด้านสายตาให้รีบพบแพทย์ทันที

 

 

ทัมซูโลซิน (Tamsulosin)

 

ทัมซูโลซินเป็นยาที่ใช้รักษาอาการต่อมลูกหมากโต โดยการยับยั้งตัวรับแอลฟาที่ต่อมลูกหมาก ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของต่อมลูกหมากคลายตัว และปัสสาวะไหลง่ายขึ้น ยานี้นอกจากจะทำให้ความดันเลือดตกเวลาเปลี่ยนอิริยาบถ ซึ่งผู้ป่วยสามารถป้องกันได้โดยการเปลี่ยนอิริยาบถอย่างช้าๆ หรือรับประทานยานี้ตอนก่อนนอน ยังมีรางายว่า ทัมซูโลซิน อาจเกี่ยวข้องกับอาการข้างเคียงที่ตา เมื่อผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดรักษาต้อกระจก

 

 

เนื่องจากยานี้ยังสามารถออกฤทธิ์ยับยั้งตัวรับแอลฟาที่ดวงตา ดังเช่นงานวิจัยจากตุรกีที่ได้ศึกษาดวงตา 594 ดวงจากผู้ป่วย 579 คน (อายุระหว่าง 38-91 ปี) ที่เข้ารับการผ่าตัดรักษาต้อกระจก พบว่าผู้ป่วย 15 คน เกิดความผิดปกติของม่านตาที่เรียกว่า intraoperative floppy iris syndrome (IFIS) ซึ่งเป็นความผิดปกติของม่านตาระหว่างการผ่าตัดที่ทำให้รูม่านตาไม่สามารถขยายตัวได้ตามปกติ จนอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา ได้แก่ ม่านตาบาดเจ็บ การสูญเสียวุ้นตา จอตาหลุดลอก เป็นต้น

 

 

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าผู้ป่วยที่เกิดอาการดังกล่าวเป็นผู้ป่วยที่ใช้ทัมซูโลซิน ถึง 12 คน โดยผู้ที่ใช้ยาชนิดนี้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการมากกว่าผู้ไม่ใช้ยาถึง 99.3 เท่า

 

 

นอกจากนี้การศึกษาจากรัฐออนแทริโอ ประเทศแคนาดาพบว่า การใช้ยาทัมซูโลซินภายใน 14 วันก่อนเข้ารับการผ่าตัดรักษาต้อกระจก มีความสัมพันธ์กับการเกิดอาการข้างเยงภายหลังการผ่าตัด (เช่น จอตาหลุดลอก และการติดเชื้อในลูกตา) ในขณะที่การใช้ยานี้ก่อนเข้ารับผ่าตัด 1 ปี และไม่ใช้ยานี้ 14 วัน ก่อนเข้ารับการผ่าตัด หรือการใช้ยายับยั้งตัวแอลฟาชนิดอื่นไม่มีความสัมพันธ์กับการเกิดอาการข้างเคียงหลังการผ่าตัดต้อกระจก

 

 

ดังนั้น ผู้ป่วยต่อมลูกหมากโตที่ใช้ยานี้ และมีความจำเป็นต้องรับการรักษาต้อกระจก จึงควรปรึกษาจักษุแพทย์และแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

 

 

สเตียรอยด์ (Steroids)

 

สเตียรอยด์เป็นยาจำพวกหนึ่ง ที่มีการใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง เช่น บรรเทาอาการอักเสบ ใช้ทางผิวหนังเพื่อรักษาผื่นผิวอักเสบ ใช้สูดพ่นสำหรับโรคหอบหืด หรือโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง อย่างไรก็ตาม การใช้สเตียรอยด์อย่างไม่เหมาะสม และการใช้โดยไม่อยู่ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ ก็ทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงได้

 

 

ซึ่งก็คือกลุ่มอาการคุชชิง ซึ่งมีอาการคือ หน้ากลม มีหนอกที่คอ อ้วน เหนื่อยง่าย ผิวหนังบาง ซึมเศร้า เป็นต้น ดวงตาก็เป็นเป้าหมายหนึ่งของผลร้ายจากการใช้ยาสเตียรอยด์อย่างไม่เหมาะสม เนื่องจากสเตียรอยด์สามารถเพิ่มความดันในลูกตาจนทำให้เป็นต้อหินได้ ไม่เพียงเฉพาะยาหลอดตาสเตียรอยด์ที่เพิ่มความดันลูกตา แต่ยาสเตียรอยด์ในรูปแบบอื่นๆ เช่น ยาทา ถ้าหากทารอบๆ ดวงตาติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจเพิ่มความดันลูกตาได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากผิวหนังบริเวณรอบดวงตาสามารถดูดซึมสเตียรอยด์ได้ดีกว่าฝ่าเท้าถึง 300 เท่า ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดอาการข้างเคียงที่ตาของยาทาสเตียรอยด์ ได้แก่

 

 ความแรงของยา ยาสเตียรอยด์แต่ละชนิดมีความแรงในการออกฤทธิ์ไม่เท่ากัน ยาทาสเตียรอยด์ที่แรงถึงแรงมาก ได้แก่ เบตาเมธาโซน 0.05% เดซ็อกซิเมธาโซน 0.25% โมเมทาโซน 0.1% เป็นต้น ยาในกลุ่มนี้ควรหลีกเลี่ยงการทารอบดวงตาติดต่อกันนานหลายเดือน ส่วนยาสเตียรอยด์ที่ออกฤธิ์อ่อน ได้แก่ เพร็ดนิโซโลน 0.5% ไฮโดรคอร์ติโซน 0.5% ไตรแอมซิโนโลน 0.02% มีความปลอดภัยเมือ่ใช้กับผิวหนังบริเวณรอบดวงตา

 

 

 บริเวณที่ทา การทาสเตียรอยด์ในบริเวณอื่นโดยทั่วไป จะไม่ส่งผลต่อดวงตา อย่างไรก็ตามการทาสเตียรอยด์ที่มีความแรงมากในพื้นที่กว้างเป็นเวลานาน ก็อาจส่งผลกระทบต่อดวงตาได้

 

 

ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเพิ่มความดันของลูกตาโดยสเตียรอยด์ ได้แก่

 

 ป่วยด้วยต้อหินมุมเปิด หรือมีประวัติคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคต้อหินมุมเปิด งานวิจัยในออสเตรเลียที่ศึกษาประชาชนที่มีอายุระหว่าง 49-97 ปี จำนวน 3,654 คนพบว่า ผู้ที่ใช้ยาสูดสเตียรอยด์และมีประวัติคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคต้อหินมุมเปิด จะมีความเสี่ยงต่อการมีความดันในลูกตาเพิ่มขึ้น หรือป่วยด้วยโรคต้อหินเป็น 2.6 เท่าของผู้ที่ไม่มีประวัติครอบครัวป่วยด้วยโรคนี้

 

 

ส่วนผู้ที่ไม่มีประวัติครอบครัวป่วยด้วยโรคต้อหินมุมเปิด จะไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ยาสูดสเตียรอยด์กับความดันลูกตาที่เพิ่มขึ้น

 

 

 อายุ เด็กและผู้สูงอายุจะมีการเพิ่มขึ้นของความดันลูกตาจากสเตียรอยด์มากกว่าผู้ใหญ่

 

 

 สายตาสั้นมาก

 

 

 โรคเบาหวานชนิดที่ 1

 

 

 โรคของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์

 

 

ไฮดร็ฮกซี่คลอโรควิน (Hydroxychloroquine)

 

ไฮดร็อกซี่คลอโรควินเป็นยาที่ใช้รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เอสแอลอี และไข้มาลาเรีย มีอาการข้างเคียงที่สำคัญ คือ อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง และทำให้เกิดการทำลายจอตาแบบถาวรได้ อย่างไรก็ตามการศึกษาโดยนักวิจัยชาวฮ่องกง และงานวิจัยจากอเมริกาพบว่าอาการข้างเคียงต่อจอตาของยานี้พบน้อยมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรใช้ยานี้ด้วยความระมัดระวัง ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับจอตาอาจไม่มีอาการ ยกเว้นจากการตรวจเจอความผิดปกติด้วยการส่องตา อาการข้างเคียงอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับตาของยานี้ ได้แก่ โรคกระจกตาแบบไม่อักเสบ ซึ่งพบน้อยมากและอาการดีขึ้นเมื่อหยุดยา เกิดจากการสะสมของยาที่กระจกตา โดยมากไม่รบกวนความชัดเจนของการมองเห็น แต่ผู้ป่วยอาจมีอาการกลัวแสง ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอตาจากยานี้ ได้แก่

 

 การได้รับยานี้มากกว่า 6.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวที่ไม่รวมไขมัน (lean body weight) 1 กิโลกรัมต่อวัน

 

 

 การใช้ยานี้ติดต่อกันมากกว่า 5 ปี

 

 

 ปริมาณไขมันในร่างกายสูง

 

 

 มีโรคตับหรือไต

 

 

 มีโรคอื่นๆ ที่จอตา

 

 

 อายุมากกว่า 60 ปี

 

 

ผู้ที่ใช้ยานี้จะต้องได้รับการตรวจตาพื้นฐานในปีแรกที่ใช้ และได้รับการตรวจตาเป็นระยะๆ ผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงข้างต้น แพทย์อาจจะนัดตรวจทุก 1 หรือ 2 ปี ในกรณีที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ส่วนผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงข้างต้น จำเป็นต้องได้รับการตรวจสายตาทุกปี หรืออาจจะถี่กว่านั้น ในกรณีที่ได้รับยาในขนาดสูง และในกรณีที่เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับสายตา ทั้งผู้ที่มีและไม่มีปัจจัยเสี่ยงต้องรีบมาพบแพทย์ทันที

 

 

เอ็ทแธมบิวทอล (Ethambutol)

 

เอ็ทแทมบิวทอลเป็นยารักษาวัณโรค ซึ่งอาจส่งผลต่อการมองเห็นแบบชั่วคราวได้ การสำรวจผู้ป่วยที่ได้รับยานี้ในไต้หวันระหว่างปี พ.ศ.2543-2551 พบผู้ป่วยโรคเส้นประสาทตาจากเอ็ทแทมบิวทอลจำนวน 231 คน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยวัณโรคที่ได้รับยานี้แต่ไม่มีอาการผิดปกติทางตา พบว่าปัจจัยเสี่ยงของการเกิดความผิดปกติที่ตา ได้แก่ อายุมาก ความดันเลือดสูง และโรคไต

 

 

ดังนั้น ก่อนเริ่มยานี้ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจตา  และควรได้รับการตรวจตาเป็นระยะๆ ระหว่างการรักษา โดยเฉพาะถ้าได้รับยามากกว่า 15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน ควรได้รับการตรวจตาทุกเดือน และรีบมาพบแพทย์เมื่อมีปัญหาสายตา

 

 

จริงอยู่ที่ว่ายาหลายชนิด โดยเฉพาะที่กล่าวมาข้างต้น จะมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรงต่อร่างกาย แต่ก็ไม่ควรตื่นตระหนกจนเลิกใช้ยาหรืองดรับการรักษาจากแพทย์ การใช้ยาอย่างเหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกร การสังเกตสุขภาพร่างกาย และการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง (ดังที่ปรากฏข้างต้นว่าปัญหาทางกายหลายอย่าง เช่น โรคตับและไต เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียงของยาที่ตา) ย่อมเป็นกุญแจสำคัญต่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

 

 

ภก.พลกิตต์ เบศรภิญโญวงศ์

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ยกกระชับช่องคลอด Vaginal Lift Vaginal Morpheus Pro Morpheus ยกกระชับ Oligio Body Oligio IV Drip ดริปวิตามิน Emsella รีแพร์ เลเซอร์นอนกรน นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก ลดน้ำหนัก Emsculpt สลายไขมัน สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting romrawin รมย์รวินท์ Belotero ผิวฉ่ำ Glassy Skin Juvederm Coolsculpting เลเซอร์รอยสิว Meso Hair Skinvive ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย โบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime Ulthera Ulthera Thermage FLX Thermage Oligio Oligio ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร กำจัดขน เลเซอร์ขน เลเซอร์ขน Pico Laser Pico Majesty Reepot Laser Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Sculptra Sculptra Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse UltraClear AviClear Accure Laser Fit Firm Emsculpt Coolsculpting Elite NAD+ ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP Vaginal P-SHOT O-Shot LLLT ปลูกผม รักษาผมร่วง ผมร่วง ผมบาง ปลูกผม ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม ดูดไขมัน ดึงหน้า ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก วีเนียร์ Apex