Haijai.com


คนเราเกิดมาแล้วกี่ชาติ


 
เปิดอ่าน 14579

คนเราเกิดมาแล้วกี่ชาติ

 

 

คำถามที่อาจจะค้างคาใจหลายคนเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ นั่นก็คือเราได้เวียนว่ายตายเกิดมาในภพต่างๆ มามากแค่ไหน ผมจะขอยกที่พระพุทธเจ้าได้เปรียบเทียบเอาไว้ในพระไตรปิฎก (ติณกัฏฐสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ 16 พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ข้อ 421-448)

 

 

“สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ ฯ” แปลว่า ชีวิตของคนเรานั้นได้เวียนว่ายตายเกิดมานานมากจนหาจุดเริ่มต้นไม่ได้

 

 

พระพุทธเจ้าได้เปรียบเทียบว่า หากนับเฉพาะปริมาณน้ำนมที่เราดื่มจากแม่ รวมกันทุกๆ ชาติที่เราเกิดมา ปริมาณน้ำนมจากแม่ที่เราดื่ม จะมีปริมาณมากว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งหมด

 

 

หรือหากนับเฉพาะปริมาณน้ำตาที่เราสูญเสียไปในตอนที่แม่ของเราเสียชีวิตรวมกันทุกๆ ชาติ ปริมาณน้ำตาที่เราสูญเสียเพราะแม่ของเราเสียชีวิต จะมีปริมาณมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งหมด

 

 

หรือหากนับเฉพาะปริมาณเลือดที่ไหลมาในชาติที่เราถูกตัดหัวรวมกันทุกๆ ชาติ ปริมาณเลือดที่เราสูญเสียในชาติที่เราถูกตัดหัว จะมีปริมาณมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งหมด

 

 

หรือหากนับเฉพาะปริมาณเลือดที่ไหลออกมาในชาติที่เราถูกตัดหัว เพราะเป็นโจรฆ่าผู้อื่นรวมกันทุกๆ ชาติ ปริมาณเลือดที่เราสูญเสีย จะมีปริมาณมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งหมด

 

 

หรือหากนับเฉพาะปริมาณเลือดที่ไหลออกมาในชาติที่เราเกิดเป็นวัว แล้วถูกตัดหัวรวมกันทุกๆ ชาติ ปริมาณเลือดที่เราสูญเสียในชาติที่เราเกิดเป็นวัวและถูกตัดหัว จะมีปริมาณมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งหมด

 

 

หรือหากนับเฉพาะปริมาณเลือดที่ไหลออกมาในชาติที่เราเกิดเป็นไก่ แล้วถูกตัดหัวรวมกันทุกๆ ชาติ ปริมาณเลือดที่เราสูญเสียในชาติที่เราเกิดเป็นไก่แล้วถูกตัดหัว จะมีปริมาณมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งหมด

 

 

คำนวณเล่นๆ

 

ผมลองคำนวณเล่นๆ (อย่าจริงจังกับตัวเลข) โดยคำนวณสมมุติว่า น้ำทะเลโดยเฉลี่ยลึกประมาณ 2.5 กิโลเมตร (น้ำทะเลลึกที่สุดประมาณ 10 กิโลเมตร) หากสมมุติว่าชาติที่เราเกิดเป็นมนุษย์ เราเสียน้ำตาเพราะแม่ตายประมาณ 2 ลิตรต่อ 1 ชาติ ผมคำนวณได้ว่าเราเกิดมาเป็นคนประมาณ 40,000,000,000,000 ชาติ

 

 

และสมมุติว่าเลือดที่ไหลออกมาจากการถูกตัดคอในชาติที่เป็นสัตว์มีปริมาณ 1 ลิตร ผมคำนวณได้ว่า หากนับเฉพาะชาติที่เราเกิดมาเป็นวัวแล้วถูกตัดคอ (ชาติที่ไม่ถูกตัดคอไม่นับ) เราเกิดมาแล้วประมาณ 80,000,000,000,000 ชาติ เฉพาะชาติที่เราเกิดมาเป็นหมูแล้วถูกตัดคอ (ชาติที่ไม่ถูกตัดคอไม่นับ) เราเกิดมาแล้วประมาณ 80,000,000,000,000 ชาติ เฉพาะชาติที่เราเกิดมาเป็นไก่แล้วถูกตัดคอ (ชาติที่ไม่ถูตัดคอไม่นับ) เราเกิดมาแล้วประมาณ 80,000,000,000,000 ชาติ

 

 

หากเรานึกตามก็จะพอมองเห็นว่า เราทุกคนได้เวียนว่ายตายเกิดมากมาย มากจนเราทุกคนต่างเคยเป็นมาครบทั้งพรหม เทวดา เปรต สัตว์เดรัจฉาน อสุรกาย หรือแม้แต่สัตว์นรก และแต่ละอย่างราก็เป็นมานับครั้งไม่ถ้วน การเวียนว่ายตายเกิดของเรานั้นมากจนคนที่ได้รู้ความจริงต่างก็เกิดความรู้สึกอย่างหนึ่งขึ้นมา นั่นก็คือ รู้สึกเบื่อหน่ายที่จะต้องวนเวียนเกิดแล้วตายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผู้คนจำนวนมากที่นับถือศาสนาพุทธ จึงมุ่งหน้าเข้าสู่หนทางที่จะนิพพาน เพื่อที่จะไม่ต้องกลับมาเจอวัฏจักรแบบนี้อีก (เรียกว่าสังสารวัฏ หรือ วัฏสงสาร)

 

 

แม้ชีวิตบางคนจะมีทรัพย์สมบัติมากแค่ไหนก็ตาม แม้ชีวิตเทวดาจะมีความสุขมากแค่ไหนก็ตาม ก็ยังเป็นชีวิตที่ไม่สามารถหลีกหนีความทุกข์ที่เกิดจากเกิด แก่ เจ็บ และตาย รวมถึงความทุกข์ที่เกิดจากความไม่สมหวังในชีวิตอีกมากมาย การนิพพานก็คือหนทางที่จะไม่ต้องกลับมาเจอสิ่งเหล่านี้อีก

 

 

ผู้ที่มีชีวิตที่พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ กลับรู้สึกสุขใจหลายคน รวมถึงผู้ที่มีทุกข์มาก เพราะไม่มีทรัพย์สมบัติหลายคนจึงต้องแสวงหาการหลุดพ้นความทุกข์จากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งสิ่งนี้จะหาจากศาสนาอื่นไม่ได้นอกจากศาสนาพุทธเท่านั้น

 

 

อ่านมาถึงตรงนี้คงช่วยตอกย้ำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่า พระพุทธเจ้ามีพระคุณกับเรามากมายแค่ไหน ที่เสียสละตนเองสั่งสมบารมี เพื่อตรัสรู้หนทางดับทุกข์ให้เรา และเราโชคดีแค่ไหนที่เกิดมาในยุคที่ยังมีคำสอนของพระองค์หลงเหลืออยู่ และโชคดีสุดๆ แค่ไหนที่เกิดมาในประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ อย่าปล่อยให้โอกาสดีๆ แบบนี้ผ่านไปโดยไม่เกิดประโยชน์กับชีวิตเรา

(Some images used under license from Shutterstock.com.)