Haijai.com


ปริศนา ห้องคลอด ห้องทำคลอด


 
เปิดอ่าน 3515

เปิดห้องคลอด

 

 

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งกับอีกหนึ่งสถานที่ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิงเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นที่ที่ชีวิตน้อยๆ ทั้งหลายถือกำเนิดขึ้น ใช่แล้วค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกเรื่องราวภายใน “ห้องคลอด” กันอย่างละเอียด มาติดตามไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

 

 

ตั้งแต่โบราณกาล การคลอดบุตรนับเป็นเรื่องน่ากลัวอันดับต้นๆ ของผู้หญิงทุกชาติพันธุ์ ทุกชนชั้น และนับเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์เสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ การคลอดในสมัยก่อนส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นที่บ้าน ขาดการเตรียมการรับมือสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ในการคลอด ผู้หญิงบางรายถึงกับเริ่มทำพินัยกรรมตั้งแต่ทราบว่าตัวเองตั้งท้องเลยทีเดียว

 

 

เป็นเรื่องน่ายินดีที่ในปัจจุบันการแพทย์พัฒนาไปไกล มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันมัยสำหรับช่วยเหลือคุณแม่ใกล้คลอดทั้งหลาย และการคลอดส่วนใหญ่ก็เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ทำให้อัตราการเสียชีวิตของผู้หญิงขณะคลอดบุตรลดลงจากเดิมราวครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร ยังคงมีความเสี่ยงมากมายทั้งต่อมารดาและต่อทารก

 

 

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าต้องการจะขู่ให้บรรดาว่าที่คุณแม่ทั้งหลายตกใจกลัว เพียงแต่ต้องการให้ทุกคนมีทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการคลอดบุตร เพราะไม่ใช่ว่าการคลอดทุกครั้งจะปลอดภัย มารดาและทารกจะแข็งแรงเสมอไป สิ่งไม่คาดคิดนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ และมักจะเกิดในเวลาที่คนเราเตรียมใจน้อยที่สุด

 

 

เปิดประตูสู่ห้องคลอด

 

ห้องคลอดเพิ่งจะมีขึ้นเมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมานี้เอง อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าในสมัยโบราณการคลอดส่วนใหญ่จะเกิดที่บ้าน แต่หลังจากที่มีการตระหนักถึงอันตรายทั้งก่อนการคลอด ระหว่างคลอด และหลังคลอด ทำให้ค่อยๆ เกิดความคิดเรื่องการจัดการห้องคลอดให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้น เพื่อความสะดวกในการรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันและเมื่อความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดเพิ่มขึ้น ทำให้ห้องคลอดมักจะอยู่ติดหรือรวมเอาห้องผ่าตัดเข้าไปไว้ในตัวด้วยเลย โดยทั่วไปห้องคลอดในโรงพยาบาลจะประกอบด้วยส่วนหลักๆ 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนรอคลอด ซึ่งว่าที่คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาอยู่ในส่วนนี้นานกว่าส่วนอื่นๆ และ ส่วนทำคลอด เป็นสถานที่ซึ่งเกิดการคลอดขึ้นจริงๆ

 

 

เหตุผลที่ต้องมีทั้งส่วนรอคลอดและส่วนทำคลอด เนื่องจากสรีรวิทยาหลายๆ อย่างของมนุษย์ เป็นต้นว่าเด็กเกิดใหม่มีศีรษะที่โตมากเมื่อเทียบอัตราส่วนกับลำตัว และเชิงกรานของคนที่แคบกว่าสัตว์อื่นๆ (ไม่เชื่อลองสังเกตจากสายพันธุ์ใกล้ๆ เราคือลิงชิมแปนซีสีคะ จะเห็นได้ชัดว่าสะโพกของมันผายกว่าเรามาก เวลาเดินสองขาลิงจึงเดินโงนเงนไปมาในขณะที่มนุษย์นั้น เดินตัวตรงอย่างผึ่งผาย) การคลอดของมนุษย์จึงเป็นไปอย่างยากลำบากกว่าสัตว์อื่นมาก ทำให้ในการคลอดบุตรของมนุษย์คนหนึ่งอาจจะกินเวลากว่า 10 ชั่วโมงในครรภ์แรก และราวๆ 8 ชั่วโมงในครรภ์ต่อมา ด้วยเหตุนี้ห้องคลอดจึงต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน

 

 

ส่วนแรกซึ่งเป็น “ห้องรอคลอด” เป็นที่ที่บรรดาว่าที่คุณแม่ซึ่งมีอาการเจ็บครรภ์จริง และพร้อมที่จะคลอดบุตรเข้ามานอนพักเพื่อรอให้ปากมดลูกเปิดเสียก่อน ถึงจะสามารถคลอดได้ ในช่วงแรก ซึ่งเรียกกันว่าระยะเฉื่อย (Latent Phase) ปากมดลูกจะค่อยๆ เปิดอย่างช้าๆ เมื่อหัวเด็กค่อยๆ เคลื่อนลงต่ำ ช่วงนี้จะใช้เวลานานที่สุด แต่มารดายังสามารถจิบน้ำ เดินไปเดินมาได้ เพียงแต่ต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด ระหว่างนี้เหล่าว่าที่คุณแม่จะมีอาการเจ็บท้องหรือท้องปั้นเป็นระยะห่างๆ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่ามดลูกกำลังบีบตัวเพื่อดันทารกลงมา และเด็กคนหนึ่งกำลังจะคลอดในไม่ช้า

 

 

ในช่วงแรกแพทย์และพยาบาลจะทำได้เพียงแค่คอยดูแลอยู่ห่างๆ ตรวจร่างกายเป็นระยะทุกๆ 2 ชั่วโมง โดยประมาณ และรอให้ปากมดลูกเปิดหมดเสียก่อน คุณแม่ก็ไม่ควรจะรีบร้อนเบ่งในช่วงนี้ เพราะนอกจากจะเปลืองแรงโดยเปล่าประโยชน์แล้ว (คือไม่ได้ทำให้คลอดได้เร็วขึ้น ไม่ได้ทำให้เด็กเคลื่อนลงมาไวขึ้น) ยังทำให้ปากมดลูกบวม ทำให้การคลอดช้าลงอีกด้วย

 

 

หลังจากผ่านพ้นระยะแรกไปจนกระทั่งปากมดลูกเปิดได้ราวๆ 3-4 เซนติเมตรแล้ว ว่าที่คุณแม่ทั้งหลายจะถูกย้ายมานอนในอีกห้องหนึ่ง ซึ่งก็คือ “ห้องทำคลอด” นั่นเอง

 

 

เมื่อย้ายเข้ามาในส่วนที่ 2 หรือส่วนทำคลอด คุณแม่จะถูกให้งดน้ำงดอาหาร ซึ่งเรื่องนี้ก็มีเหตุผลเบื้องหลังอยู่อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า การคลอดนั้นเต็มไปด้วยเหตุการณ์ไม่คาดคิด การที่ให้งดน้ำงดอาหารก็เพื่อรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้ เนื่องจากถ้ามีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นจริง และจำเป็นต้องทำการผ่าตัดด่วน หากมารดามีอาหารหรือน้ำค้างคาอยู่ในกระเพาะอาหารจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการสำลักลงปอด ในช่วงที่ต้องทำการผ่าตัด เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปอดอักเสบ นอนโรงพยาบาลนานขึ้น หรือแม้กระทั่งอาจจะขาดอากาศจนเสียชีวิตก็มี

 

 

อีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากห้องรอคลอด คือ คุณแม่จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินไปมา ให้นอนอยู่บนเตียงเท่านั้น ช่วงนี้คุณแม่ส่วนมากจะรู้สึกเจ็บครรภ์ถี่ขึ้น อาการปวดจะมากขึ้น เนื่องจากศีรษะของทารกลงต่ำมากขึ้น เพื่อพยายามดันให้ปากมดลูกเปิดหมด คือ 10 เซนติเมตร ในช่วงนี้แพทย์อาจจะให้ยาเร่งคลอดร่วมไปกับยาแก้ปวดทางสายน้ำเกลือ

 

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาการปวดมักจะไม่ได้หายเป็นปลิดทิ้ง (ยกเว้นกรณีให้ยาแก้ปวดเข้าทางไขสันหลัง ซึ่งต้องให้วิสัญญีแพทย์เป็นผู้วางยา) เนื่องจากให้ยาแก้ปวดในปริมาณที่สูงจนกระทั่งแม่หายปวด ทารกที่คลอดออกมาจะได้รับผลข้างเคียงจากยา ทำให้ไม่สามารถหายใจเองได้ และเมื่อปากมดลูกเปิดหมด 10 เซนติเมตร กระบวนการคลอดจริงๆ จึงจะเริ่มต้นขึ้น

 

 

ในช่วงกระบวนการคลอดนี้ แพทย์และพยาบาลจึงจะเข้ามามีบทบาทในการช่วงทำคลอด แต่ก่อนหน้านั้นในช่วงที่รอให้ปากมดลูกเปิดหมด เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการของธรรมชาติอย่างแท้จริง การแพทย์มีส่วนเข้าไปแทรกแซงน้อยมาก บทบาทหลักของแพทย์และพยาบาลในกระบวนการคลอดส่วนมากนั้น เป็นการป้องกันและรับมือเวลาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น แพทย์จึงจะเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขสถานการณ์ เพื่อดูแลให้คุณแม่และทารกคลอดได้อย่างปลอดภัย

 

 

จะขอกล่าวนอกเรื่องนิดแต่ยังอยู่ในประเด็นของการคลอดบุตร นั่นคือ คำถามที่หลายๆ ท่านอาจจะมีอยู่ในใจตอนนี้ว่า การผ่าคลอดจะอันตรายน้อยกว่าหรือเปล่านะ

 

 

คำตอบน่าจะเป็นอย่างนี้ค่ะ การผ่าคลอดเจ็บเวลาคลอดน้อยกว่า (เพราะเราให้ยาระงับความรู้สึกทางไขสันหลัง) แต่เจ็บหลังคลอดมากกว่า เสียเลือดมากกว่า (คลอดธรรมชาติจะเสียเลือดโดยเฉลี่ย 2 ลิตร แต่การผ่าท้องคลอดจะเสียเลือดประมาณ 4 ลิตร) นอนโรงพยาบาลนานกว่า ภาวะแทรกซ้อนขณะผ่าตัดและหลังผ่าตัดสูงกว่า แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายสูงกว่า และจะเป็นประโยชน์ต่อมารดาและทารกเฉพาะในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ที่เหมาะสมเท่านั้น (เช่น กรณีที่มารดาหรือทารกอาจจะเป็นอันตรายหากการคลอดไม่สิ้นสุดโดยเร็ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตรวจร่างกายและการวัดชีพจรของทารกในครรภ์เป็นสำคัญ และภาวะอันตรายส่วนใหญ่ มักจะไม่สัมพันธ์กับความเจ็บปวดของมารดา) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแนะนำให้ว่าที่คุณแม่ทั้งหลายลองปรึกษากับสูติแพทย์ดูถึงทางเลือกในการคลคอดเป็นรายๆ ไป

 

 

สุดท้ายนี้ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้กับว่าที่คุณแม่ทุกคนผ่านพ้นการคลอดบุตรอย่างปลอดภัย และได้กลับบ้านพร้อมกับเจ้าตัวเล็กอย่างมีความสุขนะคะ

 

 

สัญญาณว่าเจ้าตัวเล็กพร้อมจะคลอดแล้ว

 

1.มีอาการเจ็บครรภ์ถี่และสม่ำเสมอ คุณแม่ที่มีอาการเจ็บครรภ์อย่าเพิ่งตื่นตระหนก เนื่องจากในระยะท้ายๆ ของการตั้งครรภ์ อาจจะมีอาการที่เรียกว่า “เจ็บครรภ์เตือน” เป็นอาการที่มดลูกบีบรัดตัวเหมือนเป็นการซ้อม เพื่อค่อยๆ ดันทารกลงมาอยู่ในอุ้งเชิงกราน (แต่ยังไม่คลอด) อาการของการเจ็บครรภ์จริงคืออาการเจ็บครรภ์จะเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอและถี่ขึ้นเรื่อยๆ โดยมากจะเจ็บค้างอยู่นานราวๆ ครึ่งถึงหนึ่งนาที

 

2.มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด

 

3.น้ำเดิน ลักษณะเป็นน้ำใสๆ ไหลออกทางช่องคลอด

 

 

พญ.ปณิชา ตั้งตรงจิตร

แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





สิวอุดตันเกิดจาก สิวฮอร์โมน คอลลาเจน สิวไขมัน สิวหัวแข็ง AviClear AviClear Laser สิวไต สิวเสี้ยน หน้าขาวใส หน้าแพ้สาร สิวข้าวสาร หน้าใสไร้สิว หน้าไหม้แดด สิวหัวขาว หน้าแห้ง อาการนอนกรน วิธีลดไขมันทั้งตัว ผิวขาว ผิวหน้า ผู้หญิงนอนกรน หน้ากระจ่างใส วิธีลดไขมันในร่างกาย หน้าเนียนใส หน้าเนียน หน้าหมองคล้ำเกิดจาก กดสิวใกล้ฉัน กดสิวเสี้ยน กดสิว หน้าใส สิวอุดตัน หน้าหมองคล้ำ สิวอักเสบ สิว สิวหัวช้าง หน้าขาว สิวขึ้นคาง สิวผด ครีมลดรอยสิว วิธีแก้การนอนกรนผู้ชาย แก้อาการนอนกรนผู้หญิง วิธีลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน Sculpsure ลดไขมันในร่างกาย วิธีลดไขมัน ลดไขมันต้นขา สลายไขมันหน้า ไตรกลีเซอไรด์ เซลลูไลท์ วิธีแก้นอนกรน ลดไขมัน Coolsculpting ทำกี่ครั้ง Sculpsure กับ Coolsculpting นอนกรนเกิดจาก Morpheus8 สลายไขมันหน้าท้อง วิธีลดพุงผู้หญิงเร่งด่วน 3 วัน Body Slim ลดไขมันทั้งตัว วิธีลดพุงผู้ชาย Morpheus8 กับ Ulthera ลดพุงเร่งด่วน วิธีลดไขมันต้นขา ลดพุง ดูดไขมัน วิธีลดหน้าท้อง สลายไขมันด้วยความเย็น คอเลสเตอรอล วิธีลดไขมันหน้าท้อง ไขมัน วิธีลดพุงผู้หญิง Coolsculpting Elite CoolSculpting vs Emsculpt วิธีลดพุง สลายไขมันต้นขา ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt CoolSculpting บทความน่ารู้ บทความกระชับสัดส่วนรูปร่าง บทความดูแลรูปร่างและสุขภาพ บทความรักษาอาการนอนกรน บทความ Morpheus บทความ Coolsculpting บทความโปรแกรมดูแลผิวหน้า ข่าวและกิจกรรม romrawin รมย์รวินท์ Plinest Pico หลุมสิว เลเซอร์ฝ้า เลเซอร์ฝ้า กระ IV Weight Loss Thermage Body Pico Laser ราคา สิว กลืนบอลลูนราคา วิธีลดน้ำหนัก วิธีแก้อาการนอนกรน อาการนอนกรน บทความโปรแกรมรักษาอาการนอนกรน เลเซอร์รีแพร์ ดึงหน้าที่ไหนดี ผ่าตัดดึงหน้าราคา Thermage FLX ผ่าตัดดึงหน้า ดึงหน้าราคา ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี ดึงหน้า vs ร้อยไหม ศัลยกรรมดึงหน้าราคา เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น Ultraformer MPT ราคา ลดเซลลูไลท์ ฟิลเลอร์แก้มตอบราคา CoolSculpting vs Emsculpt ลดน้ำหนัก วิธีสลายไขมัน สลายไขมัน Alexandrite Laser Dynamic Tech Morpheus Pro สารเติมเต็ม ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม เลเซอร์ขนหน้าอก Coolsculpting vs Coolsculpting Elite Morpheus8 ราคา สลายไขมันด้วยความเย็นราคา สลายไขมันด้วยความเย็น ฟิลเลอร์ใต้ตาราคา ดึงหน้า Ultherapy Prime vs Ulthera SPT IPL เลเซอร์ขนแขน YAG Laser Diode Laser ไฮยาลูรอน ฟิลเลอร์น้องชายอันตรายไหม ฉีดสิว Emtone 1 week 1 Kilo ลดน้ำหนัก กลืนบอลลูน Exo Hair Reborn หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ดูดไขมัน ดึงหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก บทความศัลยกรรม วีเนียร์ บทความทันตกรรม Coolsculpting Fit Firm Emsculpt Coolsculpting Elite บทความลดน้ำหนัก ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน บทความดูแลสุขภาพ Vaginal Lift P-SHOT O-Shot บทความสุขภาพเพศ Meso Hair LLLT ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ ปลูกผมผู้ชาย ปลูกผมสำหรับผู้หญิง ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม รักษาผมร่วง บทความรักษาผมร่วง ผมบาง บทความดูแลเส้นผม เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขน บทความเลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Reepot Laser Reepot บทความโปรแกรมหน้าใส NCTF 135 HA Rejuran Belotero Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra vs ฟิลเลอร์ Sculptra บทความ Sculptra Radiesse บทความ Radiesse บทความฉีดหน้าใส UltraClear AviClear Laser AviClear Accure Laser Accure บทความโปรแกรมรักษาสิว ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ บทความฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย บทความโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio บทความยกกระชับใบหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม บทความร้อยไหม Apex