Haijai.com


อาหารทำลายสุขภาพไต


 
เปิดอ่าน 20228

อาหารทำลายไต

 

 

เมื่อเกิดโรคไตเรื้อรัง เนื้อไตจะค่อยๆ ถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง จำนวนหน่วยไตที่ทำหน้าที่เหมือนตัวกรองจะลดจำนวนลง ของเสียจำนวนมากที่เกิดจากการกินหรือการเผาผลาญในร่างกายจะผ่านไปยังเนื้อไตส่วนที่เหลือ ทำให้ตัวกรองเหล่านั้นทำงานหนักเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่า ตัวกรองส่วนที่เหลือเหล่านั้น ก็จะตายไปอย่างรวดเร็วในที่สุด จึงเกิดไตวายระยะสุดท้ายที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องฟอกเลือด เพราะไม่มีทางที่ของเสียในร่างกายจะถูกกำจัดออก เราสามารถช่วยให้ไตทำงานลดลงได้ด้วยการควบคุมอาหารได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะสามารถชะลอการเสื่อมหน้าที่ของไตได้

 

 

หลักในการควบคุมอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ยังไม่จำเป็นต้องฟอกเลือด คือ ต้องลดหวาน ลดมัน ลดเค็ม และควบคุมปริมาณการได้รับเนื้อสัตว์ เนื่องจากในเนื้อสัตว์มีโปรตีนสูง ซึ่งการได้รับในปริมาณมากจะทำให้ปริมาณของเสียในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ไตทำงานหนักขึ้น ดังนั้น เมนูโดยรวมทั้งวันจะมีเนื้อสัตว์ไม่มาก ตัวอย่างอาหารแต่ละมื้อใน 1 วัน ได้แก่

 

 มื้อเช้า ข้าวสวยกับแกงส้ม หรือ โจ๊กไม่ใส่ไข่ 1 ถ้วย

 

 

 มื้อกลางวัน เนื่องจากผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังต้องลดปริมาณโปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีทั้งในสัตว์และพืช เช่น ข้าว ผู้ป่วยอาจต้องเลือกรับประทานแป้งที่ไม่มีโปรตีน เรียกว่า “แป้งปลอดโปรตีน” พบได้ในวุ้นเส้น เส้นก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้

 

 

เพราะฉะนั้นมื้อกลางวันอาจเลือกเป็นก๋วยเตี๋ยววุ้นเส้นหรือสุกี้สัก 1 ชาม แนะนำให้รับประทานเป็นสุกี้แห้ง เวลาสั่งให้บอกแม่ค้าว่า อย่าพึ่งใส่น้ำจิ้ม ขอเอามาใส่น้ำจิ้มเอง ซึ่งโควตาน้ำจิ้มที่ผู้ป่วยโรคไตสามารถรับประทานได้ โดยที่โซเดียมไม่เกินจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ช้อนโต๊ะ เพราะฉะนั้นถ้าเราแยกน้ำจิ้มมาใส่ต่างหาก เชื่อว่าปริมาณ 1.5 ช้อนโต๊ะ น่าจะเพียงพอ ที่จะทำให้เราได้รสชาติอาหารนั้นๆ

 

 

 มื้อเย็น สำหรับผู้หญิงอาจจะชอบข้าว น้ำพริก ปลาทู ก็สามารถรับประทานได้ แต่ปริมาณน้ำพริกที่รับประทานได้ต่อมื้อจะอยู่ที่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนปลาทูต้องเป็นปลาทูสด อาจเป็นปลาชนิดอื่นก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ปลาที่ผ่านกระบวนการแปรรูปแล้ว รับประทานคู่กับผักลวกหรือแกงประเภทผักก็ได้ ไม่แนะนำให้รับประทานแกงที่มีเนื้อสัตว์อีก เพราะต้องจำกัดปริมาณโปรตีน และที่ควรรับประทานผักลวกหรือผักที่ผ่านการปรุงด้วยความร้อนแทนผักสด เนื่องจากผู้ป่วยโรคไตจำเป็นต้องควบคุมปริมาณโพแทสเซียม เมื่อเปรียบเทียบผักชนิดเดียวกันในปริมาณเท่ากันระหว่างผักลวกกับผักสด พบว่าการลวกหรือผ่านความร้อนจะทำให้ปริมาณโพแทสเซียมในผักลดลง

 

 

สำหรับผู้ป่วยโรคไต น้ำเปล่า คือ เครื่องดื่มที่ดีที่สุด

 

หากต้องการดื่มน้ำสมุนไพร ต้องมั่นใจว่าสมุนไพรชนิดนั้นๆ ไม่ส่งผลกระทบต่อไต สำหรับเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ นอกจากน้ำเปล่าที่ผู้ป่วยโรคไตพอดื่มได้ เช่น น้ำใบเตย น้ำกระเจี๊ยบ น้ำตะไคร้ น้ำดอกอัญชัน น้ำเก๊กฮวย แต่ให้ลดความหวานลง หรือเปลี่ยนไปใช้น้ำตาลเทียม

 

 

ปริมาณโซเดียมเฉลี่ยในเครื่องปรุงรสชนิดต่างๆ

ชนิด

ปริมาณ

โซเดียม (มก.)

เกลือ

1 ช้อนชา

2,000

ผงปรุงรส

1 ช้อนชา

950

ผงชูรส

1 ช้อนชา

600

น้ำปลา

1 ช้อนชา

400

ซีอิ้วขาว

1 ช้อนชา

400

ซอสปรุงรส

1 ช้อนชา

400

น้ำปลาร้า

1 ช้อนชา

593

ซอสหอยนางรม

1 ช้อนชา

450

น้ำจิ้มสุกี้

1 ช้อนชา

280

ซอสพริก

1 ช้อนชา

220

น้ำจิ้มไก่

1 ช้อนชา

210

ซอสมะเขือเทศ

1 ช้อนชา

140

 

 

โภชนาการดูแลไตในผู้ที่ยังไม่เป็นโรคไตเรื้อรัง

 

สำหรับผู้ที่ยังไม่ป่วยเป็นโรคไต อาจจะต้องกลับไปดูที่สาเหตุของการเกิดโรคไตเรื้อรัง สำหรับคนไทย สาเหตุอันดับหนึ่งมาจากโรคเบาหวาน รองลงมาคือความดันโลหิตสูง ผู้เขียนขอแยกเป็น 2 กรณี คือ

 

 กรณีที่เป็นเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว ในแง่ของอาหาร ต้องรับประทานอาหารลดหวาน ลดมัน ลดเค็ม เพื่อที่จะคุมไม่ให้น้ำตาลในเลือด ไขมันในเลือด และความดันโลหิตสูง จนกระทั่งเป็นสาเหตุให้เกิดโรคไตในอนาคต

 

 

 กรณีที่ไม่เป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูง ต้องควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคทั้งสอง คำว่า “เหมาะสม” ให้ใช้เกณฑ์ง่ายๆ สำหรับผู้หญิงให้ใช้ ส่วนสูง – 110 ผู้ชายใช้ ส่วนสูง -100 จะได้ค่าน้ำหนักตัวที่เหมาะสมของเราออกมา ถ้าน้ำหนักเกินจากค่าที่ได้ จำเป็นต้องเริ่มลดน้ำหนักแล้ว โดยอาจลดด้วยการออกกำลังกายเพิ่ม หรือควบคุมอาหาร หรือทำทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไป ซึ่งจะช่วยให้การควบคุมอาหารไม่หนักหนาสาหัสจนเกินไป เช่น ลดของว่างระหว่างวัน ลดน้ำอัดลมหรือชากาแฟ ร่วมกับออกกำลังกายวันละครึ่งชั่วโมง ก็จะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ประมาณเดือนละ 0.5-1 กิโลกรัม ที่สำคัญต้องมีความตั้งใจ

 

 

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย

 

 ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังส่วนใหญ่จะทราบดีอยู่แล้วว่า ต้องลดการรับประทานเนื้อสัตว์ แต่ผู้ป่วยจะมีความเชื่อที่ผิดอยู่อย่างหนึ่งว่า จะเปลี่ยนมารับประทานปลาแทนการรับประทานเนื้อหมูเนื้อไก่ ซึ่งปริมาณที่รับประทานเข้าไปนั้นเป็นลักษณะ “กินไม่จำกัด” แต่ในความเป็นจริง ปลาก็คือเนื้อสัตว์ชนิดหนึ่ง การรับประทานในปริมาณที่มากเกิน จะทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เสื่อมเร็วขึ้น

 

 

 ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยเมื่อทราบว่า ตนเองเป็นโรคไต จะเสาะหาสูตรอาหารต่างๆ ที่เชื่อว่าช่วยบำรุงไต เช่น สูตรเซี่ยงจี๊ผสมเม็ดลิ้นจี่ 8 เม็ด ต้มน้ำ 2 ถ้วย ให้เหลือ 1 ถ้วยแล้วดื่ม เป็นต้น ในช่วงแรกของการรับประทานสูตรอาหารต่างๆ เหล่านี้ ผู้ป่วยจะรู้สึกดีเนื่องจากปัสสาวะออกดีขึ้น ใสขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะปริมาณน้ำที่ดื่มเข้าไปมาก หรือสมุนไพรบางตัวที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แต่เมื่อผู้ป่วยรับประทานไปได้สักระยะหนึ่ง ปรากฏว่าค่าการทำงานของไตทรุดลง รวมถึงมีภาวะแทรกซ้อนบางอย่างเกิดขึ้น เช่น ยูริกในเลือดสูงจากการรับประทานเครื่องใน หรือปริมาณโพแทสเซียมในเลือดสูงขึ้นจากการรับประทานสมุนไพรบางชนิด เป็นต้น และกว่าผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ ก็เสียโอกาสในการรักษาไตไปมากแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก

 

 

 ผู้ป่วยส่วนหนึ่งมีความเชื่อว่าซีอิ๊วและน้ำปลามีความเค็มต่างกัน คือ น้ำปลาจะเค็มกว่าซีอิ๊ว เพราะฉะนั้นเมื่อแนะนำให้ลดเค็ม ก็จะเปลี่ยนจากน้ำปลามาเป็นซีอิ๊ว ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เนื่องจากไม่ว่าจะน้ำปลาหรือซีอิ๊ว ต่างก็มีปริมาณโซเดียวมใกล้เคียงกัน ดังนั้น ถ้าต้องลดเค็มจริงๆ ควรจะลดที่รสชาติด้วย ไม่ใช่แค่เปลี่ยนชนิดเครื่องปรุง ซึ่งทำได้โดยการลดปริมาณเครื่องปรุงที่ใช้ลงครึ่งหนึ่ง เช่น เคยใส่น้ำปลา 1 ช้อน ก็ลดลงเหลือครึ่งช้อน จึงจะได้รับปริมาณโซเดียมลดลงจริงๆ

 

 

การที่ผู้ป่วยโรคไตสามารถควบคุมอาหารได้ 100% เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ายังทำไม่ได้ อย่างน้อยการเริ่มที่จะลงมือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการชะลอการเสื่อมของไต และชะลอการเข้าสู่กระบวนการฟอกไต อย่างไรก็ตามยังคงมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่รู้สึกว่าการเข้มงวดเรื่องอาหาร ทำให้มีชีวิตอยู่อย่างไม่มีความสุข และเลือกที่จะรับประทานตามใจตนเอง แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ป่วยพึงตระหนัก คือ การปล่อยชีวิตตามใจตนเองเช่นนั้น จะนำมาสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา อาจจะรุนแรงและทรมานมากกว่าที่เป็นอยู่ รวมทั้งอาจไปกระทบรบกวนลูกหลานหรือผู้ดูแล

 

 

ดังนั้นหากผู้ป่วยยังมีความอยากในการรับประทาน การมาพบนักกำหนดอาหารจะเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะนักกำหนดอาหารจะช่วยหาจุดสมดุล เพื่อตอบสนองความอยากของผู้ป่วยและในขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดที่ทางการแพทย์ยอมรับได้ด้วย ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับประทานสิ่งที่อยากได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเลือกที่จะตามใจปาก ผู้ป่วยก็ต้องยอมรับว่าผลการรักษาที่ออกมาก็จะไม่ดีตามที่หวังไว้

 

 

ในการมาพบนักกำหนดอาหาร นอกจากผลตรวจและผลเลือดจากแพทย์แล้ว สิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยต้องเตรียม คือ การเตรียมใจให้พร้อมที่จะเริ่มต้นปรับพฤติกรรมตามคำแนะนำ และควรพาญาติหรือผู้ดูแลมาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ครัวหรือคนจ่ายกับข้าวประจำบ้าน จากการศึกษาเก็บข้อมูล เราพบว่าถ้าทั้งครอบครัวช่วยกันคอยเตรียม คอยเตือน และมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับโรคไต ความสำเร็จในการควบคุมอาหารของผู้ป่วยจะมีสูงกว่าผู้ป่วยที่มาเพียงลำพัง

 

 

อาหารเป็นเรื่องใกล้ตัว ดังนั้น เราต้องไม่ลืมว่า “กินอย่างไร ได้อย่างนั้น” เพราะเราเป็นคนตัดสินใจเอง ว่าสุขภาพของเราจะไปในทิศทางใด ทุกคนทั้งที่เป็นโรคไตและยังไม่เป็น เราทั้งหมดสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไปอย่างไร ถ้าพร้อมที่จะควบคุมอาหาร หรือรับประทานอาหารให้ถูกต้อง เหมาะสมตั้งแต่ตอนนี้ เราก็จะมีสุขภาพในอนาคตที่ดีมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตรงกันข้าม หากเรายังตามใจปาก อาหารที่เราคิดว่าอร่อยในวันนี้ อนาคตเราอาจจะไม่ได้กินมันอีกเลยก็ได้ มาเริ่มต้นดูแลตัวเองกันตั้งแต่วันนี้นะคะ

 

 

เอกหทัย แซ่เตีย

นักกำหนดอาหาร

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ดูดไขมัน วิธีลดหน้าท้อง สลายไขมันด้วยความเย็น คอเลสเตอรอล วิธีลดไขมันหน้าท้อง ไขมัน วิธีลดพุงผู้หญิง Coolsculpting Elite CoolSculpting vs Emsculpt วิธีลดพุง สลายไขมันต้นขา ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt CoolSculpting บทความดูแลรูปร่างและสุขภาพ บทความกระชับสัดส่วนรูปร่าง บทความน่ารู้ romrawin รมย์รวินท์ ดูดไขมัน ดึงหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก บทความศัลยกรรม วีเนียร์ บทความทันตกรรม สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Fit Firm Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite บทความลดน้ำหนัก ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน บทความดูแลสุขภาพ Vaginal Lift P-SHOT O-Shot บทความสุขภาพเพศ Meso Hair LLLT ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ ปลูกผมผู้ชาย ปลูกผมสำหรับผู้หญิง ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม รักษาผมร่วง บทความรักษาผมร่วง ผมบาง บทความดูแลเส้นผม เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขน บทความเลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Reepot Laser Reepot บทความโปรแกรมหน้าใส NCTF 135 HA Rejuran Belotero Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra vs ฟิลเลอร์ Sculptra บทความ Sculptra Radiesse บทความ Radiesse บทความฉีดหน้าใส UltraClear AviClear Laser AviClear Accure Laser Accure บทความโปรแกรมรักษาสิว ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ บทความฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย บทความโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime อัลเทอร่า Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio บทความยกกระชับใบหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม บทความร้อยไหม Apex