Haijai.com


10 อาการไม่สบายตัวขณะตั้งครรภ์


 
เปิดอ่าน 8599

10 อาการไม่สบายตัวขณะตั้งครรภ์

 

 

การตั้งครรภ์เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ในผู้หญิงส่วนใหญ่พอได้ทำหน้าที่อุ้มท้องแล้วก็ยากที่จะปฏิเสธการอุ้มท้องในครั้งต่อๆ ไปได้ การอุ้มท้องหนึ่งท้องต้องใช้เวลานานถึง 9 เดือน หรือ 42 สัปดาห์โดยประมาณ ใช้ระยะเวลาไม่น้อยเลย ผู้ที่จะมารับภาระหน้าที่ตรงนี้จะต้องใช้ทั้งความอดทน และความเสียสละอย่างมาก และกว่าจะได้มาซึ่งของขวัญอันล้ำค่าชิ้นนี้ ก็อาจต้องมีบทพิสูจน์เข้ามาบ้างเล็กๆ น้อยๆ เพื่อทดสอบค่ะ การได้รู้ถึงลักษณะอาการที่จะเกิดขณะตั้งครรภ์ก็เพื่อเป็นการเตรียมตัว และเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีสติค่ะ

 

 

อาการข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงคลอดเลย มักที่จะเกิดได้อย่างกะทันหัน หรือบางครั้งก็เป็นอาการที่เกิดขึ้นเป็นปกติในผู้หญิงตั้งครรภ์อยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจและรู้เท่าทันถึงอาการข้างเคียงที่มักจะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่สบายตัว ก็จะทำให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่นค่ะ ฉบับนี้ขอนำเสนอ 10 อาการแรกที่มักจะเกิดขึ้นในคุณแม่ตั้งครรภ์ และทำให้รู้สึกไม่สบายตัวค่ะ

 

 

คุณแม่ตั้งครรภ์กับเรื่องไม่สบายตัว

 

1.คลื่นไส้ อาเจียน (Nauseated) อาการนี้เกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้มีการคลื่นไส้และอาเจียนขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรทำอะไรแบบเร่งรีบมากนัก หากทานอาหารเข้าไปแล้วอาเจียนออก ควรเปลี่ยนเป็นการทานในปริมาณที่น้อยลง แต่ให้ทานบ่อยครั้งขึ้นแทนค่ะ

 

 

2.หน้ามืด (Fainting) อาการหน้ามืดในคุณแม่ตั้งครรภ์ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะขณะที่ตั้งครรภ์ระดับฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้หลอดเลือดหย่อนตัวจนเกิดความดันโลหิตต่ำ อาการหน้ามืดมักเกิดขึ้นขณะที่กำลังลุกขึ้น หรือเดินๆ อยู่ก็หน้ามืดขึ้นมาก็มีค่ะ การพักผ่อนที่เพียงพอ และการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ จะช่วยให้อาการหน้ามืดบรรเทาลงได้

 

 

3.ปวดท้อง (Abdominal Pain) อาการนี้เป็นเพราะข้อต่อที่รองรับมดลูกมีการยืดตัวออกมา จึงทำให้คุณแม่มีอาการปวดท้องขึ้นได้ หรือเมื่อยบริเวณด้านล่างของช่วงท้อง การบรรเทาอาการอาจใช้ฝ่ามือนวดบริเวณท้องที่ปวด แต่อย่าลงน้ำหนักที่แรงมากเกินไป

 

 

4.เหนื่อยง่าย (Exhausted) อาการเหนื่อยง่ายจะเกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคน ทำให้รู้สึกว่ามีความอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า และรู้สึกไม่สบายในช่วงเช้า เป็นเพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายมีการหย่อนตัว ซึ่งจะทำให้คุณแม่รู้สึกปวดหลังมากด้วย หากคุณแม่มีอาการเหนื่อยง่ายให้นอนพัก หรืองีบหลับสักพักก็จะทำให้รู้สึกดีขึ้นคะ

 

 

5.ปวดหลัง (Backache) อาการปวดหลังเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับหญิงตั้งครรภ์ทุกคน นั่นเป็นเพราะข้อต่อกระดูกส่วนต่างๆ ของร่างกายมีการหย่อนตัวตามขนาดและรูปสรีระของครรภ์ ที่นับวันก็เพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆ  ขณะนอนหรือนั่งคุณแม่จึงมักมีอาการปวดหลังตามมาติดๆ เวลานั่งก็มักจะนั่งไม่สบาย  ดังนั้นในการนั่งแต่ละครั้งควรใช้หมอนหนุนหลังไว้ด้วย ก็จะช่วยให้การปวดหลังลดน้อยลงค่ะ

 

 

6.หายใจไม่สะดวก (Breathlessness) อาการหายใจไม่สะดวกของคุณแม่นั้นเกิดจากมดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นจนไปดันกระบังลมและปอด เป็นผลให้คุณแม่หายใจไม่สะดวก การหายใจไม่สะดวกนี้มักจะเกิดขึ้นตอนที่คุณแม่มีอายุครรภ์ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เป็นอุปสรรคต่อระบบการหายใจ คุณแม่ควรปรึกษาคุณหมอที่ดูแลครรภ์ เพราะคุณหมอจะให้คำแนะนำที่เหมาะกับสรีระของคุณแม่แต่ละคนได้อย่างเหมาะสมค่ะ

 

 

7.ชาตามมือและเท้า (Polyneuropathy) อาการชาตามมือและเท้ามีเกิดขึ้นบ้างในบางครั้งของการตั้งครรภ์ค่ะ สาเหตุเป็นเพราะระบบประสาทที่ข้อมือถูกกดทับจึงทำให้มีการชาเกิดขึ้น และอีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะการขาดวิตามินบี 6 ดังนั้นในการรับประทานอาหารควรเพิ่มปริมาณอาหารที่มากไปด้วยคุณค่าของวิตามินบี 6 ไปด้วย เพราะวิตามินบี 6 จะช่วยในเรื่องของอาการชาตามมือ ตามเท้าได้เป็นอย่างดี

 

 

8.ตะคริว (Cramp) อาการตะคริวเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์เท่านั้น ตะคริวเกิดจากการหมุนเวียนของเลือดที่ไม่สมดุลกัน  เนื่องจากทารกในครรภ์ไปกดทับระบบการหมุนเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย จึงทำให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ลำบากขึ้น และอีกสาเหตุหนึ่งคือ ภาวะแคลเซียมในร่างกายต่ำ หากเกิดเป็นตะคริวขึ้นมาให้จับฝ่าเท้าของคุณแม่แล้วค่อยๆ ดันเข้าหาตัว โดยดันเข้า ปล่อยออก และไม่ควรที่จะบีบนวดตรงบริเวณกล้ามเนื้อที่เป็นตะคริว เพราะการที่บีบนวดตรงบริเวณกล้ามเนื้อที่เป็นตะคริวโดยตรงจะยิ่งทำให้ปวดมากขึ้น

 

 

9.ท้องผูก (Constipation) อาการท้องผูกเป็นการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับระบบของลำไส้  เพราะฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในช่วงการตั้งครรภ์จะทำให้ระบบขับถ่ายมีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้การขับถ่ายทำได้ยากขึ้น จึงเกิดภาวะท้องผูก แก้ได้ด้วยการที่คุณแม่จะต้องทานผัก ผลไม้ ที่มีกากใยเพิ่มมากๆ และที่สำคัญจะต้องดื่มน้ำให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย เพราะช่วยเรื่องปัญหาท้องผูกในการตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี

 

 

10.ริดสีดวงทวาร (Piles) อาการนี้เกิดจากการติดขัดของระบบไหลเวียนของเลือดในร่างกายส่วนล่างในระยะตั้งครรภ์ ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดที่ทวาร มักจะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ อาการที่เกิดขึ้นจะมีตุ่มพองสีคล้ำเป็นกลุ่มอยู่รอบรูทวารหนัก หรือในส่วนล่างของลำไส้ใหญ่ส่วนสุดท้ายทำให้มีอาการเจ็บ หรือมีเลือดออกเวลาถ่ายอุจจาระ หากในกรณีที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์ก็ให้ควบคุมการขับถ่ายให้เป็นไปตามปกติทุกวัน รับประทานผักผลไม้และดื่มน้ำให้มากก็จะช่วยป้องกันการเกิดอาการริดสีดวงทวารได้ แต่หากเป็นแล้วเกิดเจ็บเวลาขับถ่าย ให้นำเอาอ่างใส่น้ำอุ่นจัดๆ มานั่งแช่ ใช้มือช่วยดันเอาหัวริดสีดวงทวารเข้าไปทุกครั้งหลังถ่าย ก็จะทำให้ไม่เป็นมากขึ้น

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ดูดไขมัน วิธีลดหน้าท้อง สลายไขมันด้วยความเย็น คอเลสเตอรอล วิธีลดไขมันหน้าท้อง ไขมัน วิธีลดพุงผู้หญิง Coolsculpting Elite CoolSculpting vs Emsculpt วิธีลดพุง สลายไขมันต้นขา ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt CoolSculpting บทความดูแลรูปร่างและสุขภาพ บทความกระชับสัดส่วนรูปร่าง บทความน่ารู้ romrawin รมย์รวินท์ ดูดไขมัน ดึงหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก บทความศัลยกรรม วีเนียร์ บทความทันตกรรม สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Fit Firm Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite บทความลดน้ำหนัก ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน บทความดูแลสุขภาพ Vaginal Lift P-SHOT O-Shot บทความสุขภาพเพศ Meso Hair LLLT ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ ปลูกผมผู้ชาย ปลูกผมสำหรับผู้หญิง ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม รักษาผมร่วง บทความรักษาผมร่วง ผมบาง บทความดูแลเส้นผม เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขน บทความเลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Reepot Laser Reepot บทความโปรแกรมหน้าใส NCTF 135 HA Rejuran Belotero Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra vs ฟิลเลอร์ Sculptra บทความ Sculptra Radiesse บทความ Radiesse บทความฉีดหน้าใส UltraClear AviClear Laser AviClear Accure Laser Accure บทความโปรแกรมรักษาสิว ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ บทความฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย บทความโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime อัลเทอร่า Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio บทความยกกระชับใบหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม บทความร้อยไหม Apex