© 2017 Copyright - Haijai.com
หายใจปกติ VS หายใจเพื่อวิ่ง ต่างกันอย่างไร
ร่างกายจำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเพียงพอกับความต้องการ การออกกำลังกายที่หนักร่างกายก็จะต้องการออกซิเจนมากขึ้น เพื่อนำไปเผาผลาญพลังงานมากขึ้น เราใช้การหายใจแบบปกติด้วยกล้ามเนื้อซี่โครง หรือ หายใจเข้าหน้าอกขยายตัวและหน้าท้องยุบ หายใจออกหน้าอกยุบและหน้าท้องขยายตัว หรือพองออกเวลาวิ่งเร็วๆ หรือนานๆ จะจุดเสียดซี่โครงได้ง่าย
แต่ถ้าเราฝึกการหายใจด้วยกระบังลม เพื่อใช้ในการวิ่งหรือออกำลังกาย จะช่วยลดการจุกเสียดได้ดีกว่า ด้วยการหายใจด้วยกระบังลม จะคล้ายกับการฝึกหายใจในการร้องเพลง เวลาหายใจเข้าจะใช้กล้ามเนื้อกระบังลม โดยกล้ามกระบังลมจะเคลื่อนตัวลงทำให้ลมเข้าไปในปอด หน้าท้องจะพองและขยายตัว หรือที่เรียกว่าหายใจเข้าพุงป่อง และเวลาหายใจออก กล้ามเนื้อกระบังลมจะเคลื่อนตัวขึ้น พุงจะยุบ การหายใจแบบนี้ จะไม่จุกเสียดชายโครงหากวิ่งนานๆ
การหายใจแบบนี้ไม่เหมือนกับการหายใจปกติในชีวิตประจำวัน ต้องใช้การฝึกฝน และควรเป็นไปตามธรรมชาติ หายใจเข้าออกผ่านจมูก เมื่อวิ่งไปได้สักพัก การหายใจก็จะปรับเข้ากับจังหวะการวิ่ง หากรู้สึกว่าเวลาวิ่งเร็วเกินไปแล้วหายใจไม่ทัน ให้ลดความเร็วลง เมื่อปรับการหายใจได้แล้วก็จะลงตัวมากขึ้น
(Some images used under license from Shutterstock.com.)