© 2017 Copyright - Haijai.com
บล็อกหลัง ทำให้ปวดหลังหรือเปล่า
Q : สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันตั้งครรภ์ได้ 2 เดือนแล้ว และกำลังวางแผนการคลอด โดยคิดว่าจะใช้วิธีผ่าตัดคลอด เพราะกลัวเจ็บค่ะ มีเพื่อนบอกว่าให้คลอดตามธรรมชาติจะดีกว่า เพราะการผ่าตัดคลอดต้องบล็อกหลัง เมื่ออายุมากขึ้นจะทำให้มีอาการปวดหลังตามมา
อยากเรียนปรึกษาคุณหมอว่า ดิฉันควรผ่าคลอดหรือคลอดตามธรรมชาติดีคะ และการบล็อคหลังทำให้มีอาการปวดหลังในภายหลังจริงหรือไม่
A : ขณะที่อ่านจดหมายฉบับนี้ทำให้ดิฉันคิดถึงตนเอง ตอนที่ตั้งครรภ์แรกนั้นมีอายุ 29 ปี และตั้งใจจะคลอดเอง เมื่อตั้งครรภ์ได้ 36 สัปดาห์ ปรากฏว่ามีอาการปวดท้องคลอด ขณะรอคลอดผ่านไป 8 ชั่วโมง เกิดปวดครรภ์อย่างหนัก ทั้งๆ ที่ปากมดลูกเปิดแค่ 2 เซนติเมตร มีความดันโลหิตสูงและตกเลือดจากภาวะแทรกซ้อนรกลอกตัวก่อนกำหนด
นอกจากนี้ทารกในครรภ์ยังมีอาการหัวใจเต้นช้า จึงต้องผ่าตัดด่วน มิฉะนั้นลูกจะตาย จำได้ว่าตอนนั้นมดลูกบีบตัวแข็งเกร็งตลอดทำให้ปวดท้องมาก ต้องร้องสุดเสียงอย่างไม่อาจกลั้นได้ตลอดทางที่เข็น จากห้องคลอดไปยังห้องผ่าตัด
เมื่อไปถึงห้องผ่าตัดยังมีเรื่องตลก เนื่องจากพยาบาลห้องคลอดโทรศัพท์บอกห้องผ่าตัดว่า ผ่าตัดคลอดด่วน หมอชัญวลี หมอดมยาจึงเข้าใจว่าหมอชัญวลีจึงดุเสียงดังว่า หมอไปไหน ตามมาด่วน คนไข้ปวดจะตายอยู่แล้ว ยังไม่มาอีก ดิฉัน (หมอชัญวลี) จึงยกมือขึ้น หมอดมยาจึงรู้ว่าหมอชัญวลีเป็นคนไข้ และไม่ได้เป็นคนผ่าตัด
ผลปรากฏว่า ผ่าคลอดลูกคนโตออกมาในสภาพเกือบตาย เพราะเกิดสำลักน้ำคร่ำที่เป็นขี้เทา ต้องใส่ท่อหายใจดูดเอาขี้เทาที่สำลักเข้าหลอดลมออก แม้กระนั้นเมื่อโตขึ้นก็มีพัฒนาการทางสมองเป็นปกติ
พบว่า สภาวะที่อยากคลอดเอง แต่ต้องผ่าตัดคลอดฉุกเฉินแบบดิฉันนั้นมีไม่มาก เพราะคนทั่วไปร้อยละ 75-80 สามารถคลอดเองได้อย่างปลอดภัย ส่วนร้อยละ 20-25 อาจคลอดเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องมือช่วยคลอดหรือผ่าตัดคลอด
เป็นคำถามยอดฮิตจากคุณแม่ตั้งท้องว่า ผ่าคลอดหรือคลอดตามธรรมชาติ อย่างไหนจะดีกว่ากัน
คำตอบ ฟันธงค่ะว่า ไม่สามารถตอบได้แม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะผลจากการผ่าคลอดหรือคลอดธรรมชาติขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคุณแม่แต่ละคน
อย่างไรก็ตาม การคลอดธรรมชาติในคุณแม่ที่มีความเสี่ยงต่ำมีข้อดีกว่าการผ่าคลอด คือ
1.ทารกที่คลอดธรรมชาติ มีปัญหาของระบบทางเดินหายใจน้อยกว่าทารกที่ผ่าคลอดอย่างมีนัยสำคัญ
2.การคลอดผ่านช่องคลอด ทำให้ทารกมีภูมิต้านทานจากเชื้อโรคที่ได้รับระหว่างการคลอด นับเป็นการให้วัคซีนครั้งแรกของลูก
3.มารดาเจ็บแผลคลอดน้อยกว่าแผลผ่าตัด จึงแข็งแรงเร็วกว่าและสามารถให้นมลูกได้สำเร็จกว่า
4.ความเสี่ยงเกิดการตกเลือดและต้องตัดมดลูกในท้องต่อไปมีน้อยกว่า
5.มารดาเสียเลือดในการคลอดน้อยกว่า
6.มีลูกได้หลายคน ขณะที่ผ่าตัดคลอดไม่ควรผ่าตัดซ้ำเกิน 3 ครั้ง
แต่ตรงกันข้าม หากคุณแม่มีความเสี่ยงสูง เช่น ตั้งครรภ์ทารกไม่ใช่เด็กท่าศีรษะ มารดาเชิงกรานแคบ หรือได้รับอุบัติเหตุที่กระดูกเชิงกรานมาก่อน มีโรคประจำตัว อายุน้อยเป็นวัยรุ่น หรืออายุมากกว่า 35 ปี เคยมีภาวะคลอดบุตรยาก เคยคลอดแล้วลูกได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์และการคลอดในท้องนี้ เคยผ่าตัดคลอดมาก่อน ฯลฯ ต้องปรึกษาแพทย์ บางรายต้องผ่าตัดคลอด หากฝืนไปคลอดธรรมชาติ แม่และลูกอาจจะเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
สำหรับการบล็อกหลังเพื่อการผ่าตัดคลอดนั้นเป็นวิธีที่นิยม เพราะปลอดภัยต่อแม่และลูก โดยใช้ยาชาฉีดเข้าไปในช่องไขสันหลัง ทำให้ชาครึ่งล่าง โดยไม่ทำให้ปวดหลังหลังคลอดและเมื่อสูงอายุแต่อย่างใด เพราะไม่ได้ไปทำลายกระดูกสันหลังหรือไขสันหลัง
ดังนั้นความเชื่อแพร่หายว่าการบล็อกหลังทำให้ปวดหลังตอนอายุมากจึงไม่จริง อีกทั้งคนสูงอายุมักจะปวดหลังอยู่แล้ว เนื่องจากกระดูกสันหลังต้องรับน้ำหนักตัวมาตลอดชีวิต
สรุปว่าการบล็อกหลังไม่มีผลต่ออาการปวดหลัง เมื่ออายุเพิ่มขึ้น สบายใจได้ค่ะ
พญ.ธัญวลี ศรีสุโข
สูติ-นรีแพทย์
โรงพยาบาลประจำจังหวัดพิจิตร
(Some images used under license from Shutterstock.com.)