Haijai.com


ภาวะกระดูกพรุนลดความเสี่ยงเลี่ยงการล้ม


 
เปิดอ่าน 2013

กระดูกพรุน ลดความเสี่ยง เลี่ยงการล้ม

 

 

ภาวะกระดูกพรุนที่มักพบในกลุ่มผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความเสื่อมตามวัย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะเริ่มเข้าสู่ช่วงวิกฤตตั้งแต่วัยใกล้หมดประจำเดือน และความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกพรุนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้น แต่ก็มีบางกรณีที่การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเกิดขึ้นก่อนวัยอันควร เช่น ผู้หญิงที่หมดประจำเดือนก่อนวัย เนื่องจากมีความจำเป็นต้องตัดมดลูกและรักไข่ออกตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นต้น เหตุผลหลักที่ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาสนใจภาวะกระดูกพรุน ก็เพราะไม่ต้องการให้กระดูกหัก อันจะนำมาซึ่งความสูญเสียในหลายด้าน ดังนั้นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่มีความสำคัญและสัมพันธ์กับภาวะกระดูกพรุนที่เราไม่ควรมองข้ามก็คือเรื่อง “การล้ม” เพราะถึงแม้ว่าจะมีภาวะกระดูกบางหรือกระดูกพรุนแต่ถ้าไม่ล้ม อุบัติการณ์ของการเกิดกระดูกหักก็จะลดน้อยลงได้

 

 

ลดความเสี่ยงจากการล้ม

 

เราสามารถลดความเสี่ยงจากากรล้มได้ด้วยการดูแล 2 องค์ประกอบหลักๆ ให้พร้อมอยู่เสมอ ได้แก่ สิ่งแวดล้อมและตัวเราเอง

 

 องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม เริ่มต้นด้วยการปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้เข้ากับวิถีการดำรงชีวิตตั้งแต่เรื่องพื้น ควรให้ความระมัดระวังเรื่องพื้นลื่น (ติดตั้งแผ่นกันลื่นหรือราวจับในห้องน้ำ) พื้นต่างระดับการวางข้าวของ สายไฟ ปลั๊กต่างๆ ระเกะระกะตามพื้นเหล่านี้ ต้องดูแลจัดการให้เรียบร้อย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสะดุดล้ม รวมทั้งเรื่องของแสงสว่าง และการเลือกเตียงนอนที่มีความสูงในระดับพอดี ไม่ต่ำติดพื้นเกินไป เพราะจะทำให้ลุกนั่งลำบาก เป็นต้น

 

 

 องค์ประกอบจากตัวเราเอง ตัวเรารวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกันกับเรา ควรต้องมีความรู้ในการป้องกันตนเองจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการล้ม เช่น การตรวจสุขภาพดวงตา การฝึกการทรงตัว ในที่นี้ขอแนะนำ “ไทเก๊ก” รูปแบบการออกกำลังกายที่หลายคนมองว่าเชื่องช้าและน่าเบื่อ แต่ในความเป็นจริงแล้วในความเชื่องช้านั้น กลับมีองค์ประกอบที่โดดเด่นในเรื่องของสมาธิ การเคลื่อนไหวแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ร่างกายเกิดสมดุลและมีความมั่นคงในการทรงตัว จึงไม่อยากให้ทุกคนมองข้าม

 

 

นอกจากลดความเสี่ยงจากการล้มแล้ว เรายังจำเป็นต้องรู้หลักการปฏิบัติตัวเพื่อชะลอภาวะกระดูกพรุนไม่ให้แย่ลงไปมากกว่าเดิม ถ้าพบว่าตนเองมีภาวะกระดูกพรุน เราต้องรู้ว่ามีภาวะของโรคเพิ่มขึ้นหรือเปล่า เบื้องต้นอาจสังเกตจากส่วนสูงว่าลดลงมากน้อยเพียงใด ถ้าความสูงลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ควรปรึกษาแพทย์

 

 

ปัจจุบันมีเครื่องมือตรวจวัดมวลกระดูกอยู่หลายแบบ ซึ่งมีทั้งแม่นยำและคลาดเคลื่อน เครื่องตรวจวัดมวลกระดูกที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความแม่นยำในขณะนี้ ได้แก่ เครื่อง DEXA (Dual Energy Xray Absorptionmetry) อย่างไรก็ตามการจะตรวจวัดมวลกระดูกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าเป็นสำคัญ เพราะต้องเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการตรวจ วิธีการเบื้องต้นที่ง่ายและคุ้มที่สุดคือ การหาความรู้ ดูว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกได้จัดทำแบบประเมินความเสี่ยงของการเกิดกระดูกหัก (FRAX) ซึ่งสามารถเข้าไปค้นหาและทำการทดสอบได้ในอินเตอร์เน็ต โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นการประเมินเบื้องต้นว่า เราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ แต่ถ้าทดสอบแล้วยังรู้สึกไม่สบายใจ ต้องการตรวจเพิ่มเติมก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเราเอง

 

 

ในยุคสมัยที่ผู้คนในสังคมเริ่มหันมาให้ความสนใจในเรื่องคุณภาพชีวิต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คุณผู้อ่านจะให้ความสำคัญกับปัญหากระดูกพรุน และพยายามดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะนี้ รวมไปถึงปัญหาสุขภาพในด้านอื่นๆ ด้วย การตระหนักรู้และหาทางป้องกันเป็นเรื่องดี แต่ควรอยู่ในขอบเขตของความพอเหมาะ ไม่มากเกินไปจนกลายเป็นความตระหนกหวั่นวิตกเกินกว่าเหตุ ทั้งนี้เพื่อที่เราทุกคนจะไดรับประโยชน์จากการดูแลสุขภาพอย่างคุ้มค่า และไม่สิ้นเปลืองเกินพอดี

 

 

รู้หรือไม่

 

ร่างกายของแต่ละคนมีความสามารถในการดูดซึมแคลเซียมแตกต่างกัน การที่เรารับประทานแคลเซียมเข้าไป 1,000 มิลลิกรัม ไม่ได้หมายความว่าร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับปัจจัยร่วมอื่นๆ อีกหลายอย่าง เช่น วิตามินดี ฮอร์โมนบางชนิด เป็นต้น แต่อาจนำไปใช้ได้เพียง 2-10% ของปริมาณที่บริโภคเข้าไปการบริโภคแคลเซียมในปริมาณมาก จึงไม่ใช่ตัวชี้วัดความแข็งแรงของกระดูก อย่างไรก็ตามแคลเซียมยังคงเป็นวัตถุดิบสำคัญ ที่ร่างกายต้องได้รับอย่างสม่ำเสมอในทุกช่วงอายุ โดยค่าเฉลี่ยที่ควรได้รับในแต่ละวันของทุกวัยอยู่ที่ 1,000 มิลลิกรัม

 

 

รศ.นพ.สมศักดิ์ คุปต์นิรัติศัยกุล

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ยกกระชับช่องคลอด Vaginal Lift Vaginal Morpheus Pro Morpheus ยกกระชับ Oligio Body Oligio IV Drip ดริปวิตามิน Emsella รีแพร์ เลเซอร์นอนกรน นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก ลดน้ำหนัก Emsculpt สลายไขมัน สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting romrawin รมย์รวินท์ Belotero ผิวฉ่ำ Glassy Skin Juvederm Coolsculpting เลเซอร์รอยสิว Meso Hair Skinvive ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย โบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime Ulthera Ulthera Thermage FLX Thermage Oligio Oligio ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร กำจัดขน เลเซอร์ขน เลเซอร์ขน Pico Laser Pico Majesty Reepot Laser Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Sculptra Sculptra Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse UltraClear AviClear Accure Laser Fit Firm Emsculpt Coolsculpting Elite NAD+ ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP Vaginal P-SHOT O-Shot LLLT ปลูกผม รักษาผมร่วง ผมร่วง ผมบาง ปลูกผม ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม ดูดไขมัน ดึงหน้า ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก วีเนียร์ Apex