Haijai.com


เตรียมรับมือกับอาการชักของลูกน้อย


 
เปิดอ่าน 3430

อาการชักที่ไม่ธรรมดา

 

 

เมื่อลูกน้อยมีอาการชักกระตุก คุณพ่อคุณแม่อาจจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าอาการชักแบบนี้เกิดจากสาเหตุอะไร พลอยทำให้ลืมวิธีปฏิบัติที่ควรทำ หรือคุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจจะยังไม่เคยรู้ เกร็ดความรู้และวิธีเตรียมรับมือกับอาการชักของลูกน้อยมาฝากค่ะ

 

 

เริ่มต้นที่นี่

 

1.เจ้าตัวเล็กมีอาการไข้หรือไม่

 

 มีไข้สูงเกิน 39 องศา

 

 

 อุณหภูมิปกติ 37 องศา

 

 

2.เจ้าตัวเล็กมีอาการชักแบบใด

 

 ชักไปทั้งตัว หรือชักเฉพาะแขนขาซีกเดียว

 

 

 เกิดการเกร็งชักกระตุกของกล้ามเนื้อ แขนขาหรือใบหน้า

 

 

3.ระยะเวลาในการชักเป็นแบบใด

 

 ชักนานไม่เกิน 15 นาทีหรือมากกว่า

 

 

 ชักนานประมาณ 3-4 นาที

 

 

4.เจ้าตัวเล็กมีอาการแบบนี้หรือไม่

 

 ไม่ทานข้าว เซื่องซึม แขนขากระตุก

 

 

 ปวดศีรษะ อาเจียนหลายครั้ง

 

 

 ชักซ้ำหลายๆ ครั้ง

 

 

5.ความเป็นไปได้

 

 ชักจากไข้สูง

 

 

 การติดเชื้อในระบบประสาท

 

 

 โรคลมชัก

 

 

6.ข้อควรปฏิบัติ

 

หลังจากลูกหยุดชัก ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล เพื่อวินิจฉัยสาเหตุของอาการชักและทำการรักษาทันที

 

 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับอาการชักจากไข้สูง

 

อาการชักจากไข้สูง คือภาวะชักที่เกิดจากการมีไข้สูง มักพบในเด็กที่มีอายุระหว่าง 3 เดือน-5 ปี โดยพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง อาการชักมีหลายรูปแบบส่วนใหญ่ที่พบคือ จะเป็นการชักแบบชักเกร็ง หรือกระตุกระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที แต่บางรายจะชักเฉพาะแขนขาข้างใดข้างหนึ่งหรืออาจชักนานเกิน 15 นาที หรือมีชักซ้ำภายใน 24 ชั่วโมง

 

 

7.ข้อควรปฏิบัติ

 

รีบพาไปพบแพทย์ด่วน

 

 

8.ข้อควรปฏิบัติ

 

หลังจากลูกหยุดชัก ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล เพื่อวินิจฉัยสาเหตุของอาการชักและทำการรักษาทันที

 

 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับโรคลมชัก

 

โรคลมชัก หรือ โรคลมบ้าหมู เกิดจากการทำงานของเซลล์สมองที่ไม่สัมพันธ์กันไปชั่วขณะหนึ่ง แล้วกลับมาสู่สภาพปกติได้เอง โดยขณะที่เกิดลมชักนั้นเซลล์สมองกลุ่มหนึ่งจะส่งคลื่นไฟฟ้าออกมามากเกินกว่าปกติ จนทำให้เกิดสะดุ้ง มีอาการเกร็งหรือการกระตุกของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง บางคนอาจจะมีอาการเหม่อลอยไม่ตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมภายนอก บางรายขณะชักอาจจะมีอุจจาระ ปัสสาวะราดร่วมด้วย โรคลมชักที่เกิดในเด็ก มีบางส่วนที่เป็นโรคทางกรรมพันธุ์และรอยโรคในสมอง โดยไม่ค่อยพบว่าเกิดจากเนื้องอกในสมอง

 

 

เมื่อลูกชัก สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ

 

 อันดับแรกตั้งสติให้ดีค่ะ อย่าตกใจเป็นกระต่ายตื่นตูม เพราะหลายครั้งที่ความตกใจของคุณทำให้เกิดอันตรายต่อลูกได้ เช่น การเขย่าตัวแรงๆ การบีบหรือนวดหน้าอก

 

 

 จัดให้ลูกนอนตะแคง ถ้ามีเศษอาหาร น้ำลาย หรือเสมหะให้เช็ดหรือดูดออก เพื่อป้องกันการอุดตันของทางเดินหายใจ

 

 

 ใช้ผ้าหนาๆ นุ่มๆ ห่อปลายช้อนแล้วสอดใส่ปากลูก เพื่อป้องกันการกัดลิ้นตัวเอง ห้ามใช้นิ้ว ช้อน หรือวัตถุใดๆ แยงเข้าไปในปากของลูกโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ฟันหักหลุดลงไปในหลอดลมได้

 

 

 ถอดเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มของลูกให้เหลือน้อยชิ้นมากที่สุด

 

 

 สังเกตอาการชักของลูกว่าเป็นอย่างไร เพื่อแจ้งให้คุณหมอทราบและนำไปเป็นข้อมูลในการตรวจและรักษาต่อไป

 

 

การชักซ้ำๆ ชักบ่อยๆ ชักนานๆ ส่งผลให้สมองขาดออกซิเจนไปเลี้ยง ทำให้มีผลต่อสมองและสติปัญญาของลูก อาจทำให้พัฒนาการสมองช้าหรือสติปัญญาอ่อนได้

 

 

ปัจจัยที่บ่งชี้ว่าเด็กจะมีโอกาสชักซ้ำ

 

 ชักครั้งแรกเกิดเมื่ออายุน้อยกว่า 1 ปี

 

 

 การชักครั้งแรกเกิดขึ้นขณะมีไข้สูง

 

 

 มีประวัติคนในครอบครัวเคยชักมาก่อน

 

 

 ช่วงระยะเวลาที่มีไข้ก่อนที่จะชัก ถ้าช่วงนี้สั้นมากก็ยิ่งมีโอกาสชักซ้ำได้ง่าย

 

 

นพ.ถิรชัย ตันสันติวงศ์

กุมารแพทย์ สาขาประสาทวิทยาในเด็ก

โรงพยาบาล BNH

(Some images used under license from Shutterstock.com.)