Haijai.com


พัฒนาการการได้ยินของหูลูกน้อยวัยทารก


 
เปิดอ่าน 10248

การได้ยินของลูกตัวน้อย

 

 

ที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องให้ความสนใจและเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องของพัฒนาการการได้ยินของหูลูกน้อย วัยทารกนั้นเรื่องของการได้ยินถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการไม่ได้ยินจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการต่างๆ ได้ ที่สำคัญในช่วงอายุขวบปีแรกหากไม่ได้รับการกระตุ้นหรือทดสอบการได้ยินก็อาจส่งผลต่อการออกเสียง และการพูดของลูกได้ในอนาคตต่อไป

 

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกได้ยินเสียงหรือเปล่า

 

คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกไปทดสอบสมรรถภาพทางการได้ยินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ง่ายๆ โดยการใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า OAE (Otoacoustic emission) ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้ตรวจวินิจฉัยปัญหาการได้ยินของลูกได้ตั้งแต่แรกเกิด คุณพ่อคุณแม่ก็จะทราบว่าลูกมีปัญหาเรื่องการได้ยินหรือไม่อย่างไร หากเกิดปัญหาขึ้นก็จะสามารถแก้ไขได้โดยเร็ว ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป

 

 

การทดสอบสมรรถภาพการได้ยินของลูก ทำได้ 2 วิธี

 

 การทดสอบการได้ยินโดยการใช้อุปกรณ์ OAE (Otoacoustic) เป็นการทดสอบโดยให้ทารกฟังเสียงจากหูฟังเล็กๆ โดยคอมพิวเตอร์จะทำการวัดระดับความดังของเสียงที่หูทารกได้สะท้อนกลับมา การทดสอบจะทำในขณะที่ทารกยังหลับอยู่

 

 

 การทดสอบการได้ยินด้วยอุปกรณ์ ABR (Auditory Brainstem Response Test) การทดสอบโดยให้ทารกได้ยินเสียงผ่าน Head Phone การทดสอบนี้จะสามารถวัดการได้ยินของทารก

 

 

สังเกตการได้ยินของลูก

 

อายุ

พฤติกรรมตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยิน

0-3 เดือน

เมื่อลูกได้ยินเสียงที่ดังๆ เช่นเสียงที่คุณแม่เรียก หรือพูดด้วย  ลูกก็จะมีอาการเงียบลงเมื่อได้ยินเสียง

6-10 เดือน

ลูกจะหันศีรษะมองหาต้นเสียงที่เขาคุ้นเคย เช่นเสียงของพ่อแม่ที่เรียกเขา โดยที่ลูกจะทำเสียงดังหรือมีเสียงจากลำคอ อย่างเสียงคราง

10-15 เดือน

ลูกสามารถทำเสียงที่ซ้ำๆ กันได้ และก็จะเลียนแบบเสียงที่คุณแม่ทำ สามารถชี้หรือเข้าหาสิ่งของที่คุ้นเคย อย่างตุ๊กตาหมี  ของเล่นเขย่ามีเสียงกรุ๊งกริ๊ง

 

 

ลูกจะได้ยินเสียงตั้งแต่ตอนนอนอยู่ในครรภ์คุณแม่

 

นักวิจัยได้ทำการศึกษาการได้ยินของทารกในครรภ์ด้วยวิธีต่างๆ เพื่อศึกษาถึงการได้ยินของทารก  โดยเริ่มจากการดูการเคลื่อนไหวของทารกจากการอัลตราซาวนด์ เมื่อทารกถูกกระตุ้นด้วยเสียงเพลงที่เปิดไมโครโฟนที่ติดไว้บนหน้าท้องของแม่ พบว่าทารกจะกระพริบตาแสดงการตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยิน และอีกวิธีคือสังเกตการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจ เมื่อกระทารกด้วยเสียง ผลจากการศึกษาสรุปได้ว่าทารกเริ่มได้ยินเมื่ออายุประมาณ 24 สัปดาห์ แต่ยังไม่สามารถจำแนกเสียงได้จนกว่าจะย่างเข้าอายุครรภ์ 34 สัปดาห์ ทารกก็จะมีพัฒนาการการแยกเสียงได้ พออายุครรภ์ 35 สัปดาห์ขึ้นไปทารกจะแยกเสียงต่ำและเสียงสูงได้

 

 

ทารกที่อยู่ในครรภ์จะได้ยินอะไร

 

จริงๆ แล้วต้องบอกให้ทราบกันคะว่าเสียงต่ำของคุณพ่อนั้นสามารถที่จะผ่านหน้าท้องของแม่ไปถึงลูกได้ดีมากๆ คุณพ่อควรที่จะพูดคุยกับลูกตั้งแต่ลูกอยู่ในครรภ์เพราะถือเป็นการพัฒนาการการได้ยินของลูกได้เป็นอย่างดี และเสียงที่คุณแม่พูดคุยกับลูกขณะอยู่ในท้องนั้นสามารถทำให้ลูกได้ยินเสียงของแม่ได้ชัดเจนและเกิดความคุ้นเคยใกล้ชิดกับเสียงแม่มากๆ นอกจากนี้ทารกยังได้ยินเสียงที่เกิดจากเลือดไหลในหลอดเลือดเข้ามาที่มดลูกตลอดเวลาอีกด้วย ซึ่งเสียงของคุณพ่อ คุณแม่ เสียงเพลงที่เปิดให้ลูกฟัง เสียงจะไปช่วยกระตุ้นพัฒนาการสมองของทรกตั้งแต่ก่อนทารกเกิด ระบการได้ยินของทารกซึ่งพัฒนาได้ก่อนการเห็นจึงกระตุ้นปมประสาท(Synapse) และระบบสมองเกี่ยวกับการได้ยิน(Tonotopic map) ของสมองทารกเกือบจะเต็มที่ทารกหลังเกิดจึงสามารถจะจำได้ว่าเป็นเสียงของแม่ที่ได้ยินอยู่ทุกวันเมื่อครั้งอยู่ในท้อง จึงช่วยให้ทารกรู้สึกอบอุ่นเมื่อลืมตาออกมาสู่โลกกว้างแล้วได้ยินเสียงที่คุ้นๆ หู  อย่างเสียงของพ่อกับแม่

 

 

ประสาทหูรับคลื่นเสียงได้อย่างไร

 

เสียงที่เกิดขึ้นเมื่อผ่านรูหูเข้าไปกระทบกับแก้วหู ซึ่งส่งแรงสั่นสะเทือนไปยังกระดูกหูเล็กๆ 3 ชิ้น ซึ่งจะเรียกตามรูปร่าง คือ กระดูกรูปทั่ง กระดูกรูปค้อน และกระดูกรูปโกน และจะส่งแรงสั่นสะเทือนส่งต่อเข้าไปทางช่องเล็กๆ ให้ผ่านแรงสั่นสะเทือนไปยังขนเส้นเล็กๆ ซึ่งรับแรงสั่นสะเทือนแล้วเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้าประสาท เป็นการสื่อสารข้อมูลรายละเอียดของเสียงเดินทางผ่านเส้นประสาทไปยังสมองคะ

 

 

เรื่องของเสียงที่ได้ยิน

 

พัฒนาการเรื่องการได้ยินนั้น เราทุกคนต่างก็ทราบกันแล้วว่าสามารถที่จะได้ยินกันได้ตั้งแต่ตอนเป็นทารกที่อยู่ในครรภ์ของแม่ ซึ่งเสียงที่ได้ยินนั้นก็จะมีพัฒนาการโดยตรงเกี่ยวกับการได้ยินของหู ซึ่งจะจำแนกได้ดังนี้

 

 ทารกสามารถได้ยินเสียงที่ความถี่ 30,000 Hertz

 

 

 ระดับเสียงที่วัยรุ่นตอนปลายได้ยินนั้น จะลดลงเป็น 20,000 Hertz

 

 

 ในคนอายุวัย 60 ปี จะได้ยินเสียงที่ความถี่ 12,000 Hertz

 

 

 หากเปิดเครื่องเสียงในระบบ Hi-fi Stereo คลื่นเสียงจะแผ่ประมาณ 25,000 Hertz ซึ่งเด็กจะได้ยินเสียงที่มีความถี่นี้ได้ดีมากกว่าที่ผู้ใหญ่จะได้ยิน

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ยกกระชับช่องคลอด Vaginal Lift Vaginal Morpheus Pro Morpheus ยกกระชับ Oligio Body Oligio IV Drip ดริปวิตามิน Emsella รีแพร์ เลเซอร์นอนกรน นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก ลดน้ำหนัก Emsculpt สลายไขมัน สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting romrawin รมย์รวินท์ Belotero ผิวฉ่ำ Glassy Skin Juvederm Coolsculpting เลเซอร์รอยสิว Meso Hair Skinvive ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย โบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime Ulthera Ulthera Thermage FLX Thermage Oligio Oligio ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร กำจัดขน เลเซอร์ขน เลเซอร์ขน Pico Laser Pico Majesty Reepot Laser Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Sculptra Sculptra Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse UltraClear AviClear Accure Laser Fit Firm Emsculpt Coolsculpting Elite NAD+ ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP Vaginal P-SHOT O-Shot LLLT ปลูกผม รักษาผมร่วง ผมร่วง ผมบาง ปลูกผม ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม ดูดไขมัน ดึงหน้า ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก วีเนียร์ Apex