
© 2017 Copyright - Haijai.com
Q : สนใจวิธีการปรับรูปหน้าด้วยไขมันและสเต็มเซลล์ค่ะ เพราะว่าเป็นคนที่ใบหน้าตอบ ผอมซูบ ดูเหี่ยวแห้งไม่อิ่มเอิบ แถมยังมีริ้วรอยร่องลึกเต็มไปหมด ทั้งรอบดวงตา ร่องแก้ม หน้าผาก อยากให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์และได้รูปเหมือนตอนที่ยังสาวๆ ค่ะ อยากถามคุณหมอว่า วิธีดังกล่าวมีขั้นตอนการรักษาอย่างไร และปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนคะ
A : รูปหน้าสำหรับคนเอเชียที่ถือว่าเป็นรูปหน้าที่สวยงามคือรูปไข่ มี 3 มิติ คือ
1.ความยาว แบ่งได้เป็น 3 ส่วน หน้าส่วนบน (นับจากไรผมบริเวณหน้าผากลงมาถึงหว่างคิ้ว), หน้าส่วนกลาง (นับจากหว่างคิ้วลงมาถึงฐานจมูก) และหน้าส่วนล่าง (นับจากฐานจมูกลงมาถึงคาง) ซึ่งความยาวแต่ละส่วนควรจะมีระยะใกล้เคียงกัน
2.ความกว้าง คือ ความกว้างของใบหน้าที่ส่วนที่กว้างที่สุด จะมีความกว้างเท่ากับความกว้าง 5 เท่า ของความกว้างของตา
3.ความหนา จะมีส่วนโด่งที่ได้สัดส่วน โค้งที่หน้าผาก, โค้งที่หน้าส่วนกลางที่เรียกว่า Ogee Curve (S-Curv) และโค้งที่หน้าส่วนล่างบริเวณคาง ในกรณีที่รูปหน้าเปลี่ยนจากอายุที่เพิ่มขึ้น เนื้อเยื่อบนใบหน้ามีการยุบตัว ทำให้เห็นโครงกะโหลกชัดมากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูตอบ คอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวหนังลดลง ทำให้ผิวแห้ง, มีริ้วรอยร่องลึกเกิดขึ้น ดูอิดโรยไม่เอิบอิ่มแบบสาวๆ
วิธีการธรรมชาติวิธีหนึ่งที่จะทำให้ใบหน้าสมส่วน ดูอิ่ม ทำให้ดูอ่อนเยาว์ลง ก็คือ การเติมไขมันบนใบหน้า ที่เรียกว่า Fat grafting หรือ Fat Transfer หรือ Fat injecting เป็นวิธีการย้ายไขมันจากที่หนึ่งไปยังที่ต้องการ มีขบวนการดังนี้
1.การย้ายไขมันจากบริเวณที่มีไขมัน (Donor site) บริเวณที่ใช้กันบ่อยๆ คือ หน้าท้อง, ต้นขาด้านใน หรือก้น เป็นต้น โดยวิธีการดูดออกมา โดยแรงดูดที่ไม่แรงนักเพื่อไม่ให้เซลล์ชอกช้ำมาก
2.การเตรียมไขมัน เมื่อดูดออกมาแล้วก็มาทำการแยกเอาส่วนของเหลว ซึ่งเป็นทั้งยาที่ฉีดเข้าไปและส่วนของไขมันที่แตกออก เอาแต่เนื้อเยื่อของเซลล์ไขมัน โดยบางส่วนของเนื้อเยื่อของไขมัน นำไปแยกสลายเซลล์ไขมันออก เพื่อให้ได้สเต็มเซลล์ของไขมัน แล้วจึงกลับเข้ามาผสมกับเนื้อเยื่อเซลล์ไขมัน หรืออาจนำสเต็มเซลล์ของผู้อื่นทำมาผสมกับเนื้อเยื่อเซลล์ไขมันก็ได้
3.การฉีดสเต็มเซลล์ไขมันที่เตรียมดีแล้วเข้าสู่บริเวณที่ต้องการ โดยใช้เข็มทู่บริเวณที่ฉีด เช่น บริเวณหน้าผาก, ขมับ ร่องใต้ตา, โหนกแก้ม, ร่องจมูก, แก้ม, ริมฝีปาก, คาง เป็นต้น
4.การดูแลหลังทำ ภายใน 2 อาทิตย์ ไม่ควรออกกำลังกายหรือกดบริเวณใบหน้า เพื่อไม่ให้รบกวนเซลล์ที่มีการย้าย หลังจากประมาณ 1 เดือน เซลล์ที่มีชีวิตรอดก็จะลดความบวมลง โดยทั่วไปจะประสบผลสำเร็จมากกว่า 60% สำหรับวิธีการนี้ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่เป็นธรรมชาติ บาดเจ็บน้อย มีความปลอดภัยสูง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีการคัดกรองคนไข้ที่จะทำให้ดี โดยที่ไม่มีข้อห้ามทั่วๆ ไปของการทำหัตถการ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ
นพ.ธนวรรฒน์ โชติมา
ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมความงาม
TNC (ทีเอ็นซี) คลินิก
(Some images used under license from Shutterstock.com.)