Haijai.com


ผู้ติดเชื้อเอชไอวี โรคเอดส์


 
เปิดอ่าน 2425

เอดส์ ความก้าวหน้าและปัญหา

 

 

โรคเอดส์ เริ่มเป็นที่รู้จักในสังคมไทยเมื่อประมาณ 20 กว่าปีก่อน โดยในช่วง 10 ปี แรกจำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์หรือไวรัสเอชไอวีขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้คนยังขาดความเข้าใจในการป้องกันโรคนี้ ปัจจุบันจากนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขประกอบกับการรณรงค์ให้ความรู้จากหน่วยงานอื่นๆ รวมทั้งสื่อสารมวลชน ช่วยให้อัตราการติดเชื้อเอชไอวีในผู้ป่วยใหม่ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกที่ลดลง จากเมื่อก่อนจนอัตราการติดเชื้อเกือบเป็นศูนย์ พญ.วาสนา ประสิทธิ์สืบสาย กุมารแพทย์และแพทย์วิจัยศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย มาบอกเล่าถึงความก้าวหน้าในการป้องกันและรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี รวมถึงเรื่องราวของผู้ติดเชื้อที่เราทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นมีชีวิตความเป็นอยู่ในสังคมที่ดีขึ้นได้

 

 

สถานการณ์โรคเอดส์ในปัจจุบัน

 

ดังที่กล่าวมาแล้วว่าอัตราผู้ติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทยลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากแม่สู่ลูกและการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง และจัดว่าลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยประเทศไทยได้รับการจัดลำดับว่าเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่มีการติดเชื้อใหม่น้อยมาก อย่างไรก็ตามจากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกกลับพบว่า มีบางกลุ่มที่มีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สวนทางกับกลุ่มประชากรทั้งหมด  กลุ่มดังกล่าวคือกลุ่มชายรักชาย ซึ่งเมื่อเทียบกับอัตราการติดเชื้อใหม่ในประชากรทั่วไปในระยะเวลา 1 ปี จะอยู่ที่ 1.3% เท่านั้น แต่ในกลุ่มชายรักชาย อัตราการติเชื้อใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 35% หรือ 1 ใน 3 กล่าวคือ ใน 3 คน จะพบผู้ติดเชื้อ 1 คน นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มคือ กลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดแบบเข็มฉีด ซึ่งเป็นกลุ่มเดิมและยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ นั่นคือการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ประกอบกับคนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์แบบหมู่ โดยไม่ป้องกันจึงทำให้อัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คือ พบได้ถึง 1 ใน 2 ของจำนวนผู้ใช้ยาเสพติดแบบฉีด

 

 

และยังมีอีกกลุ่มที่น่าเป็นห่วง ได้แก่ กลุ่มนักเรียนวัยรุ่น ที่พบอัตราการติดเชื้อใหม่ค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชายรักชาย สาเหตุที่ติดมาจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่มีการป้องกัน เพราะมั่นใจในคนที่ตนมีเพศสัมพันธ์ด้วย ว่าปลอดเชื้อ เพราะอยู่ในสังคมที่ดี มีการศึกษาที่ดี ไม่ติดยาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก เพราะเด็กจะขาดความระมัดระวังเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไปเลย

 

 

ปัจจัยที่ทำให้อัตราผู้ติดเชื้อลดลง

 

 การประชาสมพันธ์ ให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ แก่คนในสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะทำให้ประชาชนเรียนรู้ที่จะป้องกันตนเองมากขึ้น หรือเมื่อเกิดข้อสงสัยก็กล้าที่จะมาขอรับบริการด้านนี้มากขึ้น

 

 

 การสนับสนุนด้านการตรวจรักษาจากภาครัฐ ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอชไอวี รวมทั้งการตรวจป้องกันประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตัวอย่างเช่น หญิงตั้งครรภ์ทุกคนจะได้รับการตรวจหาเชื้อเอชไอวี เมื่อมาฝากครรภ์และตรวจหาเชื้ออีกครั้งก่อนคลอด เพื่อยืนยันว่าไม่มีเชื้อ หรือถ้าหากตรวจพบว่ามีเชื้อก็จะได้รับยาต้านไวรัส ทั้งแม่และลูกฟรี และสำหรับคนไทยทุกคนที่มีบัตรประจำตัวประชาชนสามารถมารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายปีละ 2 ครั้ง ข้อดีคือถ้าผลออกมาว่าติดเชื้อ ผู้ป่วยก็จะได้รับคำแนะนำด้านการรักษาและป้องกัน ซึ่งยิ่งทราบเร็วเท่าไหร่โอกาสที่จะแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นก็ยิ่งลดลง

 

 

ในอดีตผู้ป่วยที่จะได้รับยาต้านไวรัสจะต้องผ่านเกณฑ์บางอย่างตามที่กำหนดไว้ เช่น ดูระดับไวรัสในร่างกายอยู่ในระดับใด แต่ปัจจุบันนี้ผู้ป่วยทุกคนสามารถเข้าถึงยาต้านไวรัสเอชไอวีได้เท่าเทียมกัน โดยไม่จำเป็นต้องผ่านหลักเกณฑ์ข้อกำหนดเหมือนที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่ว่าถ้าไม่ได้รับยาต้านไวรัสทุกคน ผู้ป่วยที่ยังไม่ถึงเกณฑ์จะมีไวรัสในตัวสูง และอาจแพร่ไปสู่คนอื่นๆ การปรับเปลี่ยนนโยบายการให้ยา จึงช่วยป้องกันเรื่องการแพร่กระจายเชื้อจากผู้ที่มีเชื้ออยู่ก่อนหน้า

 

 

เมื่อหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเอชไอวี

 

สำหรับการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวี เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

 

1.กลุ่มที่ทราบว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวีและต้องการตั้งครรภ์ กลุ่มนี้ดูแลค่อนข้างง่าย เพราะความต้องการมีลูกทำให้หญิงกลุ่มนี้ตั้งใจป้องกันอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ลูกในครรภ์ติดเชื้อ ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมาพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มวางแผนจะมีลูก ให้ความร่วมมือในการรับประทานยมตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ เพื่อให้ไวรัสลดลงอยู่ในระดับต่ำที่สุด ทำให้โอกาสเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่ไปสู่ลูกในระหว่างตั้งครรภ์ลดลงอย่างมาก จนแทบไม่มีเลย นอกจากนี้แพทย์จะทำการปรับสูตรยาให้เป็นสูตรที่มีผลข้างเคียงกับทารกในครรภ์น้อยที่สุด นอกจากการดูแลตนเองในช่วงก่อนและระหว่างตั้งครรภ์แล้ว การคลอดนับว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็กที่มีความสำคัญมาก ต้องมีการวางแผนว่าจะคลอดวิธีใด จึงจะปลอดภัยกับเด็ก ทั้งนี้เพราะ 1 ใน 3 ของเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีจากแม่ ติดมาในระหว่างการทำคลอดเพียงไม่กี่ชั่วโมงนั่นเอง การที่คุณแม่ทราบมาก่อนว่าตนเองติดเชื้อ จึงช่วยลดอัตราการติดเชื้อในเด็กได้ และเด็กจะได้รับการตรวจเลือด เพื่อหาเชื้อเอชไอวีเร็วขึ้นด้วย ทำให้การรักษาและการป้องกันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

 

2.กลุ่มที่ไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี กลุ่มนี้จะตรวจพบว่าติดเชื้อเอชไอวีเมื่อมาฝากครรภ์ บางรายอาจตรวจพบตอนใกล้คลอด อย่างไรก็ตามหากได้รับการรักษาโอกาสที่เด็กจะติดเชื้อก็แทบจะเป็นศูนย์ได้เช่นกัน โดยให้คุณแม่รับยาต้านไวรัสให้เร็วที่สุด แต่ปัญหาที่พบคือผู้หญิงบางกลุ่มไม่ได้มาฝากครรภ์ มาตอนคลอดทีเดียวเลย ซึ่งพบมากในกลุ่มคนงานหญิงในแคมป์ก่อสร้าง ที่ต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ จึงควรมีการให้ความรู้ถึงประโยชน์ของการฝากครรภ์แก่คนกลุ่มนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนต่างด้าวที่อยู่ในเมืองไทย ซึ่งกลุ่มหลังนี้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาน้อยมาก

 

 

ความเข้าใจของสังคมต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี

 

ผู้ติดเชื้อเอชไอวีมักต้องเผชิญกับปัญหาการยอมรับจากคนในสังคม ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และเป็นปัญหาของทุกประเทศทั่วโลก ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทย บางที่มีการลงชื่อขับไล่ครอบครัวผู้ติดเชื้อออกจากหมู่บ้าน ผู้ป่วยเด็กหลายรายต้องออกจากโรงเรียน ย้ายที่เรียนไปต่างจังหวัด สุดท้ายบางคนไม่ได้เรียนหนังสือ เติบโตมาแบบไร้ความรู้ ไม่มีงานทำหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ตรงจุดนี้อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเชื้อเอชไอวีไม่ได้ติดต่อกันง่ายๆ เหมือนไข้หวัด เพราะติดต่อผ่านทางเลือดและการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น สิ่งที่เราทุกคนควรกลัวไม่ใช่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี หากแต่เป็นพฤติกรรมของเราเองเวลาไปมีเพศสัมพันธ์ซุกซนนอกบ้านโดยไม่ป้องกัน

 

 

สุดท้ายอยากจะฝากไว้ว่าปัจจุบันทุกคนสามารถเข้าถึงบริการตั้งแต่การให้คำปรึกษา การตรวจ และการรักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดังนั้น สำหรับผู้ที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ ขอแนะนำให้มารับการตรวจ เพื่อตัวคุณเองจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง และอยู่กับครอบครัวได้อย่างปลอดภัย สำหรับสังคมอยากให้มองคนกลุ่มนี้ด้วยความเข้าใจ พวกเขาไม่ได้คิดร้ายและไม่เป็นอันตรายกับใคร ตรงกันข้ามเขาต้องการความรัก ความเอื้ออาทร ความเป็นเพื่อน และโอกาสจากทุกคนในสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถหยิบยื่นให้กับพวกเขาได้ เพียงเท่านี้เราทุกคนก็จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขถ้วนหน้า

 

 

พญ.วาสนา ประสิทธิ์สืบสาย

กุมารแพทย์และแพทย์วิจัยศูนย์วิจัยโรคเอดส์

สภากาชาดไทย

(Some images used under license from Shutterstock.com.)