Haijai.com


ตำนานแพทย์แผนจีน เรียนรู้ก่อนรักษา


 
เปิดอ่าน 7641

ตำนานแพทย์แผนจีน เรียนรู้ก่อนรักษา

 

 

แพทย์แผนจีนเป็นศาสตร์การแพทย์มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 5,000 ปี เป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนโบราณ ศาสตร์แห่งธรรมชาติ ศาสนา ปรัชญาโบราณ และอื่นๆ อีกมากายเข้าไว้ด้วยกันเป็นองค์รวม ซึ่งนับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นของศาสตร์นี้

 

 

ความเป็นมา

 

เบื้องต้นแพทย์แผนจีนถือกำเนิดขึ้นมาจากการสังเกตและจดบันทึกสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันของชาวจีนโบราณ ทั้งที่ได้มาด้วยความตั้งใจหรือพบเจอโดยบังเอิญ เช่น สังเกตชีวิตสัตว์ต่างๆ ที่มีอาการป่วยแล้วกินพืชหรือหญ้าแปลกๆ ที่ต่างไปจาอาหารหลักที่กินเป็นประจำ  เป็นต้น และยังดึงเอาทฤษฎีของศาสตร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ ภูมิศาสร์ ตรรกศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ชีวศาสตร์ จิตวิทยา ฯลฯ รวมถึงหลักปรัชญาต่างๆ เช่น หลักหยิน-หยาง ทฤษฎีปัญจธาตุ หรือที่เรารู้จักกันในทฤษฎี 5 ธาตุนั่นเอง มาผสมผสานรวมเป็นทฤษฎีแพทย์แผนจีนในปัจจุบัน

 

 

ยุคสมัย

 

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ พบว่า การแพทย์ของชาวจีนโบราณมีมายาวนาน โดยในยุค ราชวงศ์อิน ได้ค้นพบการบันทึก 16 โรคลงบนกระดองเต่า ซึ่งครอบคลุมโรคทางอายุรกรรม ศัลยกรรม โรคระบบประสาทและสมอง โรคเกี่ยวกับดวงตา โรคทางระบบหูคอจมูก โรคทางทันตกรรม โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรคทางสูตินรีเวช กุมารเวช รวมถึงโรคตดต่อต่างๆ

 

 

เมื่อเข้าสู่ยุคของ ชุนชิว- จ้านกว๋อ ทฤษฎีแพทย์แผนจีนก็มีความเป็นระบบมากยิ่งขึ้น จนถึงยุค ราชวงศ์ฉิน-ฮั่น ได้มีการแต่งคัมภีร์ทางการแพทย์ชื่อ “หวงตี้-เน่ยจิง” ซึ่งรวบรวมทฤษฎี ปรัชญาและอธิบายการเกิดโรค วิธีตรวจวินิจฉัยและรักษาตามหลักแพทย์แผนจีนไว้อย่างครบถ้วน เป็นคัมภีร์ที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งมีการสืบทอดความรู้มาจนถึงปัจจุบัน

 

 

ต่อมาในยุค ราชวงศ์ฮั่น มีนายแพทย์ท่านหนึ่งชื่อ จางจ้งจิ่ง ได้แต่งคัมภีร์ชื่อ “ซางหัน จ๋าปิ้งลุ่น” ขึ้นมา ซึ่งอธิบายถึงโรคต่างๆ ทั้งโรคที่เกิดจากภายในและภายนอก พร้อมบรรยายถึงการดำเนินของโรค การใช้ยารักษา และการใช้เข็มรักษาไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

 

 

นอกจากนี้ จางจ้งจิ่งยังได้คิดค้นวิธีตรวจวินิจฉัยโรคที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแพทย์แผนจีน ซึ่งก็คือการ “เปี้ยน-เจิ้งลุ่นจื้อ” หมายถึง การแยกแยะวินิจฉัยโรคตามกลุ่มอาการ และการวางแผนการรักษาที่ยังคงยึดถือเป็นแบบแผนถึงปัจจุบันนี้

 

 

คัมภีร์ต่างๆ เหล่านี้เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนาต่อยอดความรู้ของแพทย์แผนจีนในยุคหลังๆ

 

 

นอกจากนี้ในยุคราชวงศ์ฮั่นก็มีแพทย์อีกท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป เนื่องจากมีชื่อปรากฏในวรรณกรรมจีนเรื่องสามก๊ก มีการนำชีวประวัติท่านมาสร้างเป็นภาพยนตร์และละครทีวีมากมาย ซึ่งก็คือ นายแพทย์ฮว่าถัว ท่านเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรม และได้คิดค้นสูตรยาสลบ ยาชา เพื่อใช้ในการผ่าตัด แต่น่าเสียดายที่คัมภีร์ที่ท่านได้เขียนขึ้น ถูกเผาทำลาย โดยภรรยาของผู้คุมเรือนจำ หลังจากที่ท่านได้มอบให้กับผู้คุมเรือนจำในบั้นปลายชีวิตขณะที่ถูกคุมขังอยู่

 

 

ในยุค ราชวงศ์จิ้น -> สุย -> ถัง นั้น แพทย์แต่ละท่านได้นำคัมภีร์หวงตี้เน่ยจิง และคัมภีร์ซางหัน จำปิ้งลุ่น มาศึกษา เพื่อเป็นพื้นฐานในการต่อยอดแต่งคัมภีร์ทางการแพทย์เล่มอื่นๆ ขึ้นมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์ชื่อ “ม่ายจิง” แต่งโดย นายแพทย์หวังซูเหอ ซึ่งได้กล่าวถึงชีพจรต่างๆ ไว้มากมาย คัมภีร์ “เจินจิ่วเจี๋ยอี่จิง” แต่งโดย นายแพทย์หวงผู่มี่ ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่อธิบายเกี่ยวกับการฝังเข็มที่เก่าแก่ที่สุด ที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน โดยได้บันทึกจุดฝังเข็มไว้กว่า 600 จุด

 

 

ในยุค ราชวงศ์จิ้น และราชวงศ์ถัง ก็มีการแต่งคัมภีร์ชื่อ “เชียนจินเย่าฟาง” และ “เชียนจินอี้ฟัง” โดย นายแพทย์ซุนซือเหมี่ยว คัมภีร์ดังกล่าวถือได้ว่า เป็นสารานุกรมทางการแพทย์ที่สมบูรณ์เล่นหนึ่งทีเดียว

 

 

นอกจากนี้ในยุคนี้ยังมีการแต่งคัมภีร์ที่เกี่ยวกับโรคทางศัลยกรรม สูตินรีเวช กุมารเวช หูตาคอจมูก และอื่นๆ อีกมากมาย จึงถือได้ว่าเป็นยุคแห่งการพัฒนาทางการแพทย์แผนจีนที่ค่อนข้างสำคัญทีเดียว

 

 

ต่อมาในยุค ราชวงศ์ซ่ง -> จิน -> หยวน มีการพัฒนาศาสตร์แพทย์แผนจีนขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งแพทย์ต่างๆ ในยุคนี้ได้ประยุกต์พื้นฐานทฤษฎีแพทย์แผนจีน ผนวกเข้ากับประสบการณ์ต่างๆ ของตัวเอง และได้ก่อตั้งสำนักการแพทย์ต่างๆ ขึ้นมากมาย โดยในยุคนี้มีนายแพทย์ที่มีชื่อเสียงถึง 4 ท่าน ซึ่งมีสำนักเป็นของตัวเอง

 

 

ในยุค ราชวงศ์หมิง -> ชิง มีการแต่งคัมภีร์เกี่ยวกับโรคที่มีความร้อน โรคระบาดต่างๆ และมีสำนักการแพทย์ที่มีชื่อเสียงเกิดขึ้น 4 สำนัก

 

 

ต่อมาหลังสงครามฝิ่นของจีนเป็นช่วงที่มีการเผยแพร่การแพทย์แผนตะวันตกมายังประเทศจีน มีนายแพทย์ท่านหนึ่งชื่อ จางซีฉุน ได้กล่าวว่า “การแพทย์ไม่ควรหยุดอยู่ที่คัมภีร์หวงตี้เน่ยจิง แต่ควรนำจุดเด่นของแพทย์ตะวันตกมาพัฒนาแพทย์แผนจีนต่อไป” ท่านจึงได้แต่งคัมภีร์ชื่อ “อีเสว๋จงจงชันซีลู๋”

 

 

หลังจาก ค.ศ.1956 เป็นต้นมา ประเทศจีนรณรงค์ให้ผสมผสานองค์ความรู้ระหว่างแพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนตะวันตก และได้นำเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัยมาวิจัยศาสตร์แพทย์แผนจีนอีกด้วย จึงทำให้ระบบทฤษฎีแพทย์แผนจีน ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว

 

 

จากบทความข้างต้นทำให้รู้ว่า ประวัติศาสตร์จีนมีแพทย์จีนที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก ซึ่งแต่ละท่านช่วยกันคิดค้นและพัฒนาการแพทย์ในแต่ละยุคสมัย จึงทำให้ระบบทฤษฎีต่างๆ ของแพทย์แผนจีนมีความสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

ปัจจุบันแพทย์แผนจีนเป็นระบบการแพทย์ที่มีองค์ความรู้สมบูรณ์ และมีประวัติเก่าแก่ที่สุดสาขาหนึ่ง ซึ่งการตรวจวินิจฉัยทำได้ 4 วิธี คือ การ “มอง ฟัง ถาม จับ” และมีวิธีรักษาทั้งการใช้สมุนไพรจีน การฝังเข็ม การรมยา การนวดทุยหนา ชี่กง และการรักษาโดยใช้อาหารเป็นยา เป็นต้น

 

 

แพทย์จีนนภษร แสงศิวะฤทธิ์

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting romrawin รมย์รวินท์ ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime อัลเทอร่า Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน กำจัดขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ เลเซอร์ขนรักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขนถาวร เลเซอร์ขน กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Pico Pico NCTF 135 HA Rejuran Belotero Revive Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra Sculptra Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse UltraClear Aviclear Laser AviClear Laser Aviclear Aviclear AviClear Accure Laser Accure สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Fit Firm Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite NAD+ therapy NAD+ ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน Vaginal Lift Apex