
© 2017 Copyright - Haijai.com
การเปลี่ยนแปลงของผิวเมื่อตั้งครรภ์
• สิว การตั้งครรภ์ทำให้เกิดสิวขึ้นได้ แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน เพราะบางคนเมื่อตั้งครรภ์กลับมีผิวพรรณสวยผุดผ่อง เปล่งปลั่ง แต่บางคนกลับเป็นสิวเห่อเต็มหน้า หรือบริเวณลำตัว เช่น หลัง สาเหตุเป็นเพราะว่าผู้หญิงแต่ละคนมีตัวรับฮอร์โมนไม่เท่ากัน จึงทำให้การตอบสนองจากการตั้งครรภ์แตกต่างกันไป จะสังเกตได้ว่าหญิงตั้งครรภ์บางคนมีสิวเห่อตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนอายุครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน จากนั้นสิวก็จะเริ่มลดลง
• กระ ฝ้า กระ มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำตาลหรือสีดำก้อนเล็กๆ ผิวเรียบหรือขรุขระ มักพบบริเวณใบหน้า คอ หรือลำตัว บางส่วนหายไปเองหลังคลอด อาจเกิดจากการติดเชื้อราที่ผิวหนัง เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์มักขี้ร้อนและเหงื่อออกง่าย ทำให้เกิดความอับชื้นและเชื้อราบริเวณซอกพับต่างๆ ได้ง่าย เช่น คอ รักแร้ ใต้ราวนม ขาหนีบ ซึ่งกระเนื้อบ่างส่วนจะไม่หายไปเองหลังหลอด ต้องรักษาโดยการใช้เลเซอร์จี้ออก ส่วนฝ้า ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องผิวพรรณที่รักษาได้ยากนั้น เกิดจากการเพิ่มจำนวนของเม็ดสีที่ผิวหนัง มีลักษณะเป็นผื่นสีน้ำตาลที่ใบหน้าหรือบริเวณที่ถูกแสงแดด มักเกิดขึ้นช้าๆ และเป็นเหมือนกันทั้งสองข้างของใบหน้า
• รอยคล้ำ เมื่อตั้งครรภ์ฮอร์โมนเพศหญิงจะสูงขึ้น ซึ่งทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากกว่าปกติ ส่งผลให้คุณแม่มีสีผิวคล้ำขึ้น ตั้งแต่ช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และมักจะคล้ำขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคลอดบุตร บริเวณข้อพับหรือส่วนต่างๆ ของร่างกายจะมีสีเข้มขึ้น ตั้งแต่ รักแร้ ขาหนีบ ต้นขาด้านใน รวมทั้งหัวนมและอวัยวะเพศ แต่หลังจากคลอดแล้วสีผิวจะค่อยๆ จางลง
• รอยแตกลาย ปกติผู้หญิงกลัวริ้วรอยแตกลายกันอยู่แล้ว และยิ่งช่วงตั้งครรภ์ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงที่ผิวหนัง จะเกิดรอยแตกลายมากขึ้น นับว่าเป็นปัญหาหนักอกหนักใจที่สุดสำหรับคุณแม่ทั้งหลายเลยก็ว่าได้ รอยแตกลายขณะตั้งครรภ์นั้น เกิดจากการยืดตัวของผิวหนัง ซึ่งมักพบบริเวณหน้าท้อง สะโพก ก้น หน้าอก ต้นขา อาจมีสีชมพู ม่วงหรือดำในคนผิวคล้ำ และอาจมีอาการคันร่วมด้วย โดยหลังคลอดอาจจางลงได้เล็กน้อย
(Some images used under license from Shutterstock.com.)