Haijai.com


ห้ามนอนก่ายหน้าผาก


 
เปิดอ่าน 22289
 

ห้ามนอนก่ายหน้าผาก

 

 

คนโบราณท่านห้ามนอนก่ายหน้าผาก

 

โบราณท่านว่า ผู้ใดนอนก่ายหน้าผาก ผู้นั้นจะตกยากอาภัพ อาการของคนนอนก่ายหน้าผาก แสดงออกให้เห็นเหมือนๆ กันว่า ชีวิตนี้เป็นทุกข์ กังวลหนักหนา แก้ปัญหาไม่ตก ยากที่จะยกภูเขาออกจากอกได้ หมดหนทางแล้ว ชีวิตมืดแปดด้าน มองไม่เห็นหนทาง ถึงคราวจนตรอกแล้ว

 

 

คนที่มีกิริยาอาการแสดงออกมาอย่างนี้ ก็แสดงถึงความสิ้นสุดแห่งกำลังใจ คือ ไม่มีกำลังใจหลงเหลืออยู่แล้ว

 

 

อันคนที่สูญสิ้นกำลังใจ ก็เท่ากับสูญสิ้นทั้งหมด คือ สูญสิ้นชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว แม้ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ไม่ต่างอะไรกับคนตาย

 

 

คนที่มีสภาพเป็นเช่นนี้ทุกวัน ย่อมเป็นคนอาภัพ กล่าวคือ ต่อไปนี้เขาจะเป็นคนตกอับ อับจน อับวาสนา หาความเจริญมิได้อีกแล้ว

 

 

ความมุ่งหมายที่แท้จริง (ห้ามนอนก่ายหน้าผาก)

 

ที่แท้ข้อนี้ มีความจริงอยู่ว่า การนอนก่ายห้าผาก ทำให้มือแขนต้องไปทับเส้นประสาท จะทำให้เลอืดลมเดินไม่สะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หน้าผากนี้ เป็นศูนย์รวมประสาท เมื่อถูกกดทับนานๆ ย่อมมีปัญหา ทำให้เกิดอาการหงุดหงิด นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ดิ้นไปมา

 

 

ในที่สุดจะคิดว่า ตนมีเรื่องกังวลมากจึงนอนไม่หลับ แต่ที่แท้สิ่งที่ทำให้นอนไม่หลับ ที่กำลังทำให้เป็นอยู่นี้ ก็คือการนอนก่ายหน้าผาก

 

 

ทีแรกนอนไม่หลับ เพราะมีเรื่องกังวล แต่พอเอามือก่ายหน้าผากเข้าไปอีก จึงกระสับกระส่าย กังวลหนักขึ้นไปอีก

 

 

ในชีวิตของคนทุกคน ย่อมจะมีปัญหาด้วยกันทั้งสิ้นไม่มากก็น้อย เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชนิดใด ควรตั้งสติสัมปชัญญะให้ได้ก่อน แล้วปัญหาหรือวิกฤตจะกลับเป็นโอกาส

 

 

จงนิ่งสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ บอกกับตัวเองว่า ปัญหามีไว้แก้ มิได้มีไว้กลุ้ม สักพักจิตใจจะสงบขึ้น

 

 

เมื่อจิตใจสงบ จงบอกกับตัวเองว่า ตอนนี้กำลังมีปัญหา ยอมรับแต่โดยดีว่ามีปัญหา จงแอ่นอกรับปัญหา อย่าหนีปัญหา อย่ากลบปัญหา นี่เป็นข้อแรกที่ต้องเขียนลงบนกระดาษ

 

 

ข้อที่สอง สืบสาวดูสาเหตุของทุกข์หรือปัญหาว่ามาจากไหน อะไรเป็นสาเหตุ สาเหตุของปัญหามีอะไรบ้าง เขียนลงไปเป็นข้อๆ จัดลำดับปัญหาเล็กใหญ่ หนักเบา ยากง่าย อะไรต้องแก้ไขก่อน อะไรต้องแก้ไขภายหลัง

 

 

ข้อที่สาม เขียนลงไปว่า ปัญหานี้เราต้องแก้ไขให้คืนดี จะไม่ปล่อยให้ลุกลามใหญ่โตไปกว่านี้อีก มองให้เห็นว่า ถาแก้ไขปัญหานี้ได้ ทุกข์กลับเป็นสุข วิกฤตจะเป็นโอกาส ล้มเหลวจะเป็นสำเร็จ สร้างสรรค์ทันที ดูต่อไปว่า เราจะแก้ไขได้ไหม เมื่อมันเกิดได้ มันก็ต้องแก้ได้สิ ไม่มีอะไรเกินปัญญาได้หรอก ถ้ารู้จักใช้ปัญญาให้เป็น

 

 

ข้อที่สี่ เขียนไปถึงวิธีต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาหรือความทุกข์ แต่ละอย่าง ว่ามีวิธีการอย่างไรบ้าง ซึ่งต้องอาศัยปัญญา การวิเคราะห์ การรู้จักพิจารณาไตร่ตรอง การมองเห็นสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง แล้วก็ลงมือแก้ปัญหาทันที ทำได้อย่างนี้ ก็ไม่ต้องเอามือก่ายหน้าผากอีกต่อไป

(Some images used under license from Shutterstock.com.)