ห้ามนำสิ่งที่อยู่ในวัดมาไว้ในบ้าน

ห้ามนำสิ่งที่อยู่ในวัดมาไว้ในบ้าน

คนโบราณท่านห้ามนำสิ่งที่อยู่ในวัดมาไว้ในบ้าน

สิ่งที่เป็นของวัดทุกอย่าง โบราณท่านห้ามนำมาไว้ในบ้าน โดยเด็ดขาด ถ้าไม่เชื่อจะเกิดความฉิบหายวายวอด

เรื่องนี้คนไทยถือกันมาก ทุกคนจะต้องไม่เอาของวัดมาไว้ในบ้าน ใครนำของวัดมาเป็นของส่วนตัว จะถูกประณามหยามเหยียด และจะต้องมีอันเป็นไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง

มีมรรคนายก (เรียกตามคนทั่วๆ ไปว่า ทายก) คนหนึ่ง เป็นคนเก่าคนแก่ มีความรู้ด้านพิธีกรรม จนได้เป็นมรรคนายกของวัด และเป็นมาจนแก่เฒ่า เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป

แต่บั้นปลายชีวิตกลับเจ็บป่วยอย่างไร้สาเหตุ และตายอย่างทรมาน ก่อนตายสำนึกผิดได้ จึงบอกความจริงว่า ที่ตนต้องอยู่ในสภาพอย่างนี้ ก็เพราะว่าตนโกงเงินวัดเป็นประจำ และโกงโดยไม่มีใครรู้ หลังจากนั้นมาก็รู้สึกใจคอไม่ดี เป็นทุกข์มาเรื่อย เพราะกลัวจะตกนรกหมกไหม้

ในที่สุด แกก็ตายจากไป

นี่คือผลร้ายของการนำของวัดมาเป็นของบ้าน ร้ายแรงขนาดไหน

ความมุ่งหมายที่แท้จริง (ห้ามนำสิ่งที่อยู่ในวัดมาไว้ในบ้าน)

โบราณท่านห้ามเด็ดขาดว่า อย่านำของวัดมาไว้ในบ้าน จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ทั้งนี้เพื่อ

๑.เตือนชาวบ้านมิให้ลักของวัด อันเป็นของส่วนรวมมาเป็นของตน สิ่งใดเป็นของส่วนรวม ทุกคนควรช่วยกันรักษาไว้ เพื่อประโยชน์สาธารณะ

๒.ป้องกันการทำบาป โดยโลภหรือโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของชาวบ้าน เพราะบาปอกุศลนั้นมีจริง ใครทำชั่ว ย่อมได้ชั่ว ความชั่วที่ทำเกี่ยวกับวัด หรือพระนั้นรุนแรงนัก รุนแรงเกินกว่าจะรับได้

รูปภาพประกอบ facebook.com/moshi.cartoon/photos_stream