Haijai.com


การวัดความดันโลหิต


 
เปิดอ่าน 4241

การวัดความดันโลหิต

 

 

ความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่มักไม่มีอาการ แต่สามารถส่งผลแทรกซ้อนในระบบหัวใจและหลอดเลือดได้ เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอัมพฤกษ์และอัมพาต ดังนั้น การวัดความดันโลหิตด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเฝ้าระวังความเสี่ยงและเตือนให้ไปพบแพทย์ เมื่อความดันโลหิตเริ่มสูงผิดปกติ โดยที่ยังไม่เกิดอาการหรือภาวะแทรกซ้อนของโรค

 

 

ควรวัดความดันโลหิตเมื่อใด

 

 เมื่อมีอาการผิดปกติต่างๆ เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หน้ามืด ใจสั่น เป็นลมหมดสติ ปวดท้อง หรือมีภาวะที่ทำให้สูญเสียน้ำ หรือเลือดออกจากร่างกายในปริมาณมาก เพราะอาการข้างต้นอาจทำให้ระดับความดันโลหิตสูงหรือต่ำผิดปกติได้

 

 

 วัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอในผู้ที่มีอายุมากวก่า 35 ปีขึ้นไป อย่างน้อยที่สุดปีละ 2 ครั้ง

 

 

 ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคหัวใจ หรือไทรอยด์เป็นพิษ เนื่องจากโรคเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับโรคความดันโลหิตสูง

 

 

การเลือกเครื่องวัดความดันโลหิต

 

เครื่องวัดความดันโลหิตที่ใช้ในบ้านควรเป็นชนิดดิจิตอล เนื่องจากสามารถพกพาได้ง่ายและสะดวกในการใช้งาน สามารถแสดงผลเป็นตัวเลขที่หน้าจอพร้อมกับอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้จดบันทึกแปลผลได้ง่าย บางชนิดสามารถพิมพ์ผลค่าที่วัด และจดจำค่าความดันโลหิตย้อนหลังได้ เครื่องวัดความดันชนิดดิจิตอลมีให้เลือกดังนี้

 

 ชนิดบีบลมเอง เป็นเครื่องที่มีราคาถูก พกพาง่าย แต่ต้องใช้มือในการบีบลม

 

 

 ชนิดมีมอเตอร์บีบลมเอง ใช้งานง่ายเพียงแค่กดปุ่ม

 

 

 ชนิดพันข้อมือ สามารถวัดความดันโลหิตได้ง่ายเพียงใส่สายรัดที่ข้อมือ พกพาสะดวกแต่มีราคาแพง

 

 

วิธีการวัดความดันโลหิต

 

 สถานที่ใช้ตรวจต้องเงียบและเป็นส่วนตัว ก่อนวัดความดันโลหิตให้นั่งพัก 15 นาทีบนเก้าอี้ ห้ามนั่งไขว่ห้าง หลังพิงพนัก เท้าอยู่บนพื้น

 

 

 เครื่องวัดความดันโลหิตและแขนที่จะวัดอยู่แนวเดียวกับระดับหัวใจ และวัดความดันโลหิตที่แขนขวาเสมอ ไม่ควรใส่เสื้อแขนยาวขณะวัดความดันโลหิต

 

 

 ขณะวัดไม่ควรมีความเครียด อาการเจ็บปวด ไม่ปวดปัสสาวะ ไม่ควรวัดความดันหลังรับประทานอาหาร ควรงดบุหรี่และกาแฟก่อนวัดความดันโลหิต 30 นาที

 

 

การแปลผลค่าความดันโลหิต

 

โดยปกติแล้ว การวัดค่าความดันโลหิตจะแสดงผลออกมา 2 ค่า บันทึกค่าเป็นสัดส่วน เช่น 130/80 mmHg

 

 Systolic คือ ค่าตัวบนซึ่งมีค่ามากกว่า เป็ฯการวัดค่าความดันของหลอดเลือดแดงในขณะที่หัวใจบีบตัว

 

 

 Diastolic คือ ค่าตัวล่างซึ่งมีค่าน้อยกว่า เป็นการวัดค่าความดันในหลอดเลือดแดง ในขณะที่หัวใจคลายตัว

 

 

 Pulse rate คือ อัตราการเต้นของหัวใจใน 1 นาที ค่าความดันโลหิตของผู้ใหญ่ สามารถแผลผลได้ ดังนี้

 

 

ค่าความดันโลหิต

ปกติ

ระยะก่อนที่จะเป็นความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตสูง ระยะที่ 1

ความดันโลหิตสูง ระยะที่ 2

Systolic
(ตัวบน)

น้อยกว่า 120 mmHg

120-139 mmHg

140-159 mmHg

สูงกว่า 160 mmHg

Diastolic
(ตัวล่าง)

น้อยกว่า 80 mmHg

80-89 nnHg

90-99 mmHg

สูงกว่า 100 mmHg

 

 

หากวัดความดันโลหิตแล้วอยู่ในช่วงที่สูงกว่าค่าปกติเพียงครั้งเดียว จะยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง แต่หากมีการวัดซ้ำ 3 ครั้ง ในโอกาสที่แตกต่างกันแล้ว ยังได้ค่าที่สูงกว่าปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไป ในกรณีที่วัดความดันโลหิตแล้วอยู่ในช่วงที่ต่ำกว่าค่าปกติ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ หรือไปพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม

 

 

นพ.คมน์สิทธิ์ เดชะรินทร์

แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป

(Some images used under license from Shutterstock.com.)