
© 2017 Copyright - Haijai.com
สตรอว์เบอร์รี่ จิ๋วแต่แจ๋ว
งานวิจะยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food Chemistry ได้ให้ผู้เข้าร่วมการวิจัยที่มีสุขภาพดีจำนวน 18 คน รับประทานสตรอว์เบอร์รี่วันละ 5 ขีดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า สตรอว์เบอร์รี่ทำให้เม็ดเลือดแดงถูกทำลายจากอนุมูลอิสระน้อยลง ผลดีในการช่วยเสริมความต้านทานต่ออนุมูลอิสระของสตรอว์เบอร์รี่ ยังส่งผลถึงเม็ดเลือดขาวด้วย สตรอว์เบอร์รี่จึงนับเป็นผลไม้สำหรับผู้ที่ต้องการขจัดพิษจากอนุมูลอิสระ
งานวิจัยอีกงานหนึ่งจาก Journal of Nutrition ยังแสดงให้เห็นถึงผลดีของสตรอว์เบอร์รี่ต่อการลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ งานวิจัยดังกล่าวได้แบ่งอาสาสมัครที่มีภาวะอ้วนลงพุงจำนวน 60 คน ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1) กลุ่มที่ได้รับเครื่องดื่มที่ประกอบด้วยผงสตรอว์เบอร์รี่ที่ผ่านกระบวนการทำแห้งเยือกแข็ง 25 กรัม
2) กลุ่มที่ได้รับเครื่องดื่มที่ให้พลังงานและใยอาหารต่ำ
3) กลุ่มที่ได้รับเครื่องดื่มที่ประกอบด้วยผงสตรอว์เบอร์รี่ที่ผ่านกระบวนการทำแห้งเยือกแข็ง 50 กรัม
4) กลุ่มที่ได้รับเครื่องดื่มที่ได้รับเป็นเวลา 12 สัปดาห์
ผลปรากฏว่าอาสาสมัครในกลุ่มที่ 3 จะมีค่าคอเลสเตอรอลในเลือดและค่าไขมันตัวเลว (แอลดีแอล) ลดต่ำลง นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบค่ามาลอนไดแอลดีไฮด์ (ซึ่งถ้าค่านี้มีมากเท่าไหร่ แสดงว่าไขมันถูกโจมตีโดยอนุมูลอิสระ ส่งผลต่อความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจที่เพิ่มขึ้น) แล้ว กลุ่มที่ได้รับเครื่องดื่มที่มีสตรอว์เบอร์รี่ผสมอยู่ ทั้งในปริมาณสูงและต่ำ จะมีค่านี้ที่สัปดาห์ที่ 12 ลดลงจากตอนเริ่มต้นและน้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับเครื่องดื่มที่ไม่มีสตรอว์เบอร์รี่ผสม
อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนคงจะเห็นได้ว่าสตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่ “จิ๋วแต่แจ๋ว” อย่างแท้จริง
(Some images used under license from Shutterstock.com.)