Haijai.com


ซื้อยารับประทานเองอันตรายต่อชีวิต


 
เปิดอ่าน 3397

เช็คยาประจำตัวสักนิดก่อนซื้อทานเอง

 

 

หลายคนยังไม่เข็ดกับการซื้อยารับประทานเอง ผลเสียที่ตามมาก็เจอทั้งแบบเฉียบพลัน ซึ่งอันตรายต่อชีวิต ส่วนผลระยะยาวคงไม่ต้องพูดถึง อาจต้องตามล้างตามเช็ดกับผลอื่นๆ ที่พ่วงมาเพราะความไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของกระดูกยาบางตัว หากได้รับไปนานๆ จะมีผลไปถึงทำให้กระดูกเปราะหักเลยทีเดียว จะมียาตัวไหนไหมที่คุณกำลังขาดมันไม่ได้ หรือซื้อทานต้วยตัวเองอยู่

 

 

1.ยาสเตียรอยด์

 

จะอยู่ในรูปแบบของยาชุดแก้ปวดต่างๆ ยาชุดแก้หอบหืดยาลูกกลอน แม้จะมีบางโรคที่จำเป็นต้องใช้สเตียรอยด์ ได้แก่ โรคหอบหืดชนิดรุนแรง โรคถุงลมโป่งพอง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคเอสแอลอี ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ หากใช้ในระยะยาว จะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน เนื่องจากสเตียรอยด์ไปเพิ่มกลไกการสลายแคลเซียมในกระดูก ลดการดูดซึมของแคลเซียม และลดฮอร์โมนทางเพศ มวลกระดูกจะลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 6-10 เดือนหลังใช้ จากนั้นจะลดลงอย่างช้าๆ โดยเฉพาะกระดูกสันหลังและซี่โครง หากได้รับยาเกิน 7.5 มิลลิกรัม ต่อวัน นานกว่า 6 เดือน จะทำให้เสี่ยงต่อกระดูกหักได้

 

 

2.ยากลุ่มกันชัก

 

เช่น Phenytoin, Phenobarbital, Carbamazepine เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้มวลกระดูกลดลง

 

 

3.ยาไทรอยด์ฮอร์โมน

 

ได้แก่ Levothyroxine ผู้ป่วยที่รักษาโรคไทรอยด์ด้วยยาชนิดนี้ อาจเกิดภาวะ Thyroid Hormone เกิน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกพรุน และความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นในผู้ป่วยสูงอายุ

 

 

4.ยาขับปัสสาวะในกลุ่ม

 

Loop Diurectic เช่น Furosemind ส่งผลยับยั้งการดูดกลับของแคลเซียม จึงทำให้มีการขับแคลเซียมออกทางไต

 

 

5.ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Tetracycline

 

โดยเฉพาะในผู้ที่ตั้งครรภ์ 3 เดือน ก่อนคลอด ไม่ควรใช้ยานี้เพราะยาสามารถผ่านไปสู่เด็ก ทำให้เกิดความเจริญทางสมองลดลง อาจพิการหรือสติปัญญาเสื่อม และในเด็กที่อายุน้อยกว่า 12 ปี นอกจากนี้ยังไปยับยั้การเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน สารจากยาจะไปจับกับฟันทำให้ฟันเหลืองดำอย่างถาวรในเด็กที่อายุน้อยกว่า 12 ปี อีกด้วย

 

 

6.ยารักษาวัณโรค

 

Pyrazinamind และ Ethambutol ส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียง ปวดข้อ ข้อบวมได้ ในช่วง 2 เดือนแรกหลังจากเริ่มทานยา หากเกิดอากรหลังจากทานยาให้แจ้งแพทย์ ไม่ควรหยุดยาเอง และเนื่องจากยายับยั้งการขับกรดยูริคทางปัสสาวะ จึงทำให้มีภาวะกรดยูริคในเลือดสูง และเกิดโรคเก๊าต์ หรือโรคเก๊าต์กำเริบขึ้น

 

 

ป้องกันที่จะลดการทานยากลุ่มนี้ได้อย่างไร

 

 ยากลุ่มสเตียรอยด์ในปัจจุบัน ผู้ป่วยมีการซื้อยามารับประทานเองเป็นจำนวนมาก ในรูปแบบของยาชุด รวมถึงการรับประทานยาสมุนไพรประเภทยาลูกกลอน ส่งผลให้เกิดกระดูกพรุน ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการซื้อยาชุด เพื่อทานบรรเทาอาการด้วยตัวเอง ควรซื้อยาที่มีเภสัชกรให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด

 

 

 ผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าวเป็นระยะเวลานาน อาจทานแคลเซียมเสริม หรืออาหารที่มีแคลเซียม วิตามินดี และฟอสฟอรัสมาก เพื่อให้กระดูกแข็งแรง

 

 

 ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

 

 

เภสัชกรหญิง พิชญา โตเลิศมงคล

หัวหน้าแผนกผู้ป่วยนอก

โรงพยาบาลยันฮี

(Some images used under license from Shutterstock.com.)