
© 2017 Copyright - Haijai.com
โรคกระเพาะอาหาร คืออะไร
โรคกระเพาะอาหาร หมายถึง สภาวะที่กระเพาะมีแผลเยื่อบุภายใน และลำไส้ก็ถูกทำลายไปด้วย บางครั้ง อาจจะเรียกว่าร่วมไปกันไปก็ได้ เช่น โรคกระเพาะอาหารและลำไส้ โรคกระเพาะอาหารนี้พบได้ในทุกเพศทุกวัย
โรคแผลในกระเพาะอาหารมักพบได้บ่อย ๆ ในประชากรวัยทำงาน และพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง อาการสำคัญของโรคนี้ก็เช่น มีอาการปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ และมักจะสัมพันธ์กับการกินอาหาร อาการจะดีขึ้น เมื่อรับประทานอาหาร ยาลดกรด อาการมักเป็นๆ หายๆ อาจจะเป็นช่วงแรก ไม่นานแล้วก็หายไป แล้วเป็นใหม่อีกครั้ง จนกลายเป็นแผลเรื้อรัง บางครั้งอาจมีผลแทรกซ้อน จนทำให้มีเลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหาร หรืออาการหนักมาก คือ แผลนั้นทะลุจนเกิดการอักเสบในช่องท้อง ต้องเข้ารับการผ่าตัด ฉุกเฉินก็เป็นได้
ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุของโรคกระเพาะอาหาร
• สาเหตุของการเกิดโรคกระเพาะมีมากมาย แต่เชื่อกันว่า สาเหตุส่วนใหญ่ มักเกิดจากการมีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป และเยื่อบุกระเพาะอาหารอ่อนแอลง
• สาเหตุที่กระเพาะอาหารมีกรดมากขึ้น เกิดขึ้นเนื่องจากสิ่งต่อไปนี้ กระตุ้นให้กรดหลั่งมาก เช่น เกิดจากความเครียด วิตกกังวล และอารมณ์
• การดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เหล้า เบียร์ ยาดอง ชา กาแฟ และน้ำดื่มที่จะทำให้กรดหลั่งออกมามาก
• การสูบบุหรี่ ทำให้เกิดการหลั่งกรดออกมามากจนทำให้เป็นโรคกระเพาะ
• การกินอาหารเผ็ดจัด และเปรี้ยวจัดจากน้ำสมสายชู
• การกินอาหารไม่เป็นเวลา ทำให้กระเพาะเป็นแผล
• มีการทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหาร เกิดจากการกินยาแก้ปวด ลดไข้ แก้ปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ ยาชุดที่มีแอสไพริน และยาสเตียรอยด์
การป้องกันการเกิดโรคกระเพาะอาหาร
• รับประทานอาหารอย่างช้าๆ เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
• ระหว่างรับประทานอาหาร อย่าเคร่งเครียด
• ให้รับประทานอาหารวันละ 3 มื้อ และให้รับประทานอาหารว่างระหว่างมื้อ อย่าให้เกิดภาวะที่หิวมาก หรืออิ่มมากเกินไป
• หลังรับประทานอาหารอย่าเพิ่งนอน ให้นั่ง หรือเดินไป-มา อย่างน้อย 1 ชั่วโมง
• ไม่ควรดื่มนมหรือครีมมากเกินไป เพราะจะทำให้กรดหลั่งมากในกระเพาะอาหาร
• อย่ารับประทานอาหารก่อนนอน 3 ชั่วโมง เพราะอาหารมื้อนั้น จะทำให้กรดหลั่งออกมามากจนเกินไป
• เลือกอาหารที่มีไขมันต่ำ และงดเครื่องดื่มบางอย่าง เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มรสเปรี้ยว เช่น น้ำมะเขือเทศ น้ำมะนาว เป็นต้น
• ยาน้ำลดกรด ควรรับประทานให้ถูก โดยรับประทานยาก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง และหลังอาหาร 3 ชั่วโมง และก่อนนอน
การให้ยารักษาโรคกระเพาะอาหาร ต้องกินยาอย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ กินยาให้ครบตามจำนวน และระยะเวลาที่แพทย์กำหนด ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาประมาณอย่างน้อย 4-6 อาทิตย์ แผลจึงจะหาย
การรักษาโรคกระเพาะอาหาร
วิธีการรักษาโรคกระเพาะอาหาร ด้วยการกำจัดต้นเหตุของการเกิดโรค ได้แก่
• กินอาหารให้เป็นเวลา อย่าปล่อยให้ท้องว่างเด็ดขาด
• งดอาหารสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด
• งดเว้นการกินยา ที่มีผลต่อกระเพาะอาหาร
• งดเว้นการกินยา ที่มีผลต่อกระเพาะอาหาร
• พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ตึงเครียดมากเกินไป
วิธีการรักษาโรคกระเพาะอาหารด้วยยา ได้แก่
การให้ยารักษาโรคกระเพาะอาหาร ต้องกินยาอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ กินยาให้ครบตามจำนวนและระยะเวลาที่แพทย์กำหนด ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาประมาณอย่างน้อย 4-6 อาทิตย์ แผลจึงจะหาย ภายหลังกินยา ถ้าอาการดีขึ้น ห้ามหยุดยา ต้องกินยาต่อจนครบ และแพทย์ต้องแน่ใจว่า แผลในกระเพาะอาหารหายขาดแล้ว จึงจะลดยาได้
ในปัจจุบัน ยาที่ใช้รักษาโรคกระเพาะอาหารแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
1.ยาลดกรด (antacid)
2.ยาลดการหลั่งกรด (acid-suppressing drugs)
3.ยาปฏิชีวนะ เช่น metronidazole, tetracycline, clarithromycin และ amoxicillin
4.ยาเคลือบกระเพาะ (Stomach-lining protector) เช่น bismuth subsalicylate.sucralfate
วิธีการรักษาโรคกระเพาะอาหารด้วยการผ่าตัด ได้แก่
หากรักษาโรคกระเพาะอาหารด้วยการใช้ยา แล้วอาการไม่ดีขึ้น ก็จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน อาทิ เช่น ไม่สามารถทำให้หยุดเลือดไหลได้ แผลกระเพาะอาหารและล้ำไส้เล็กเกิดการทะลุ และกระเพาะอาหารมีการอุดตัน เป็นต้น
(Some images used under license from Shutterstock.com.)