Haijai.com


การตรวจคัดกรองมะเร็งในช่องปาก


 
เปิดอ่าน 6029

มะเร็งช่องปาก

 

 

ถ้าจะพูดถึงเรื่องการตรวจสุขภาพช่องปาก หลายท่านก็คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า เราต้องไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูน ปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน นั่นเอง แต่ถ้าพูดกันถึงเรื่องของ “การตรวจคัดกรองมะเร็งในช่องปาก” เชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคย หรืออาจคิดว่ามะเร็งในช่องปากมีด้วยหรือ เพราะเคยได้ยินแต่มะเร็งปอด มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านมกับมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง

 

 

อันที่จริงแล้ว จากข้อมูลของกรมอนามัยพบว่า มะเร็งในช่องปากเป็น 1 ใน 10 อันดับแรกของมะเร้งที่พบในคนไทย ข้อมูลจากโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขปี 2555 พบมะเร็งที่ลิ้นมากที่สุดจำนวน 354 ราย โดยเป็นมะเร็งที่โคนลิ้นจำนวน 181 ราย และมะเร็งที่ส่วนอื่นของลิ้นจำนวน 173 ราย รองลงมาคือมะเร็งที่เพดานปากจำนวน 284 ราย มะเร็งที่พื้นของช่องปาก มะเร็งที่เหงือก และมะเร็งริมฝีปาก ส่วนที่ยังคงพบน้อยคือมะเร็งที่ต่อมน้ำลาย โดยเราจะพบผู้ป่วยในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ส่วนใหญ่มักจะพบมะเร็งในช่องปากในผู้ที่มีอายุ 50-60 ปีขึ้นไป อาจพบในคนอายุน้อยได้บ้างแต่ไม่บ่อยนัก

 

 

สำหรับโรคมะเร็งชนิดนี้ ในประเทศไทยยังเป็นปัญหาทางการแพทย์อยู่ ในปัจจุบันแม้เซลล์มะเร็งที่เกิดบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะโตไม่เร็วนัก แต่ก็มักตรวจพบในระยะเริ่มแรกได้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์เมื่อมีก้อนขนาดใหญ่หรือมีอาการมากแล้ว ซึ่งเป็นระยะที่ 3 และ 4 ทำให้การรักษายากขึ้น

 

 

อาการส่วนใหญ่ของมะเร็งในช่องปากคือการพบก้อน ติ่งเนื้อ หรือแผลเกิดขึ้น โดยก้อนเนื้อเหล่านั้นจะโตขึ้นเรื่อยๆ ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บเวลาสัมผัสหรือเวลากินอาหาร บางครั้งอาจจะมีเลือดออกฟันโยกคลอนและหลุดออก หรือในบางรายอาจพบก้อนหรือต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอโตขึ้น โดยที่ความผิดปกติในช่องปากยังมีไม่มากก็ได้

 

 

ปกติแล้วท่านที่ใส่ใจไปตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ ทันตแพทย์มักจะตรวจเช็คเรื่องมะเร็งช่องปากให้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสบายใจได้ค่ะ แต่มีอีกประเภทที่ถ้าฉันทนไหวยังไงก็ไม่ยอมไปหาหมอฟันเด็ดขาดเนี่ย อันนี้ต้องลองพิจารณาดูนะคะ ว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ถ้าใช่รีบไปหาหมอฟันก่อนอาการต่างๆ จะมาเลยนะคะ

 

 

การตรวจคักรองมะเร็งในช่องปาก สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มได้แก่

 

กลุ่มที่ 1 ผู้ที่ไม่มีรอยโรคแต่ควรได้รับการตรวจคัดกรองอย่างน้อยปีละครั้ง ได้แก่

 

 อายุ 40 ปีขึ้นไป

 

 

 สูบบุหรี่ เคี้ยวยาสูบ เคี้ยวหมาก อมเมี่ยง สูดยานัตถุ์เป็นประจำ

 

 

 ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ

 

 

 สุขภาพช่องปากไม่ดี

 

 

 มีการระคายเคืองเรื้อรัง

 

 

 มีฟันปลอมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ

 

 

 ได้รับแสงอาทิตย์ โดยตรงบริเวณใบหน้าเป็นประจำ

 

 

 ภาวะทุพโภชนาการ

 

 

 มีบุคคลในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งบริเวณทางเดินอาหารส่วนบน

 

 

 ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง

 

 

 มีประวัติติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น HIV, CMV & HPV

 

 

กลุ่มที่ 2 ผู้ที่ควรได้รับการตรวจอย่างละเอียดทันที ได้แก่

 

 เป็นแผลเรื้อรังเป็นระยะเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ เมื่อกำจัดสิ่งระคายเคืองออกแล้ว

 

 

 มีการบวมเป็นก้อน หรือหนาตัวบริเวณริมฝีปาก เหงือก หรือตำแหน่งอื่นๆ ในปาก

 

 

 รอยโรคโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

 

 มีเลือดไหลออกจากแผลได้ง่าย

 

 

 มีอาการชาบริเวณริมฝีปากและใบหน้า

 

 

 การเคลื่อนไหวของลิ้นจำกัด (ลิ้นแข็ง)

 

 

 มีอาการเจ็บแสบในช่องปากโดยอาจไม่มีแผล

 

 

 ฟันโยกที่ไม่ทราบสาเหตุหรือมีอาการชาร่วมด้วย

 

 

ส่วนเรื่องแนวทางในการรักษานั้น ในปัจจุบัน วิธีการรักษาที่เป็นที่ยอมรับและได้ผลคือการผ่าตัดและการฉายรังสี ซึ่งอาจจะใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง หรือใช้ทั้งสองอย่างร่วมกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ถึงแม้จะเป็นมะเร็งในช่องปากระยะที่เริ่มลุกลามแล้ว ยังมีคนไข้ส่วนหนึ่งซึ่งแพทย์สามารถที่จะรักษาเพื่อควบคุมอาการของโรคได้ค่อนข้างดีค่ะ

 

 

สุดท้ายหมอจุ้มจิ้มอยากฝากข้อมูลจากผู้อำนวยการสถานบันมะเร็งแห่งชาติค่ะ ท่านกล่าวว่า “มะเร็งช่องปากเป็นมะเร็งที่สามารถวินิจฉัยโรคในระยะเริ่มแรก และสามารถรักษาหายขาดได้ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาลง แต่กลับพบว่าอัตรารอดชีวิต 5 ปี ของผ็ป่วยมะเร็งช่องปาก มีเพียงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูกที่พบอัตรารอดชีวิต 5 ปี สูงถึง 60% ทั้งที่มะเร็งช่องปากสามารถตรวจพบในระยะเริ่มแรกได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้อัตรารอดชีวิตน้อยเกิดจาก การพบรอยโรคช้า เนื่องจากขาดความรู้ในการสังเกตอาการตนเอง ประชาชนจึงควรพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง”

 

 

เห็นไหมคะว่าการตรวจคัดกรอง เพื่อรับการวินิจฉัยตั้งแต่เริ่มต้นมีความสำคัญมากแค่ไหน คิดว่าข้อมูลในตอนนี้จะสามารถช่วยให้ทุกๆ ท่านได้มีความรู้และลองสังเกตตนเองเบื้องต้นว่า มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งในช่องปากได้หรือไม่ จะได้รีบมาพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจละเอียดกันอีกที แต่จริงๆ แล้วมาพบทันตแพทย์ปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน ก็สบายใจได้แล้วล่ะค่ะ และโรคมะเร็งในช่องปากนั้น สามารถป้องกันได้ โดยการไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ รักษาสุขอนามัยในช่องปาก และรักษาสุขภาพโดยรวมด้วยการรับประทานอาหารทีมีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอค่ะ

 

 

ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพปากและฟันที่แข็งแรงนะคะ

 

 

ทพญ.กิตติลักษณ์ จุลลัษเฐียร

ทันตแพทย์

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting romrawin รมย์รวินท์ ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime อัลเทอร่า Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน กำจัดขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ เลเซอร์ขนรักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขนถาวร เลเซอร์ขน กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Pico Pico NCTF 135 HA Rejuran Belotero Revive Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra Sculptra Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse UltraClear Aviclear Laser AviClear Laser Aviclear Aviclear AviClear Accure Laser Accure สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Fit Firm Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite NAD+ therapy NAD+ ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน Vaginal Lift Apex