
© 2017 Copyright - Haijai.com
โฟเลต ไม่ได้สำคัญแค่กับคุณแม่ท้อง
นาทีที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้หญิงทุกคน คือ วินาทีแรกที่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆ กำลังถือกำเนิดขึ้นภายในร่างกาย หลังจากความรู้สึกดีใจที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ตามมาในความคิดของผู้เป็นแม่ก็คือ การดูแลทารกในครรภ์ให้ดีที่สุด ใส่ในเรื่องของสารอาหารที่รับเข้าไปในร่างกาย โดยหนึ่งในสารอาหารที่สำคัญของผู้หญิงตั้งครรภ์ก็คือ กรดโฟลิค หรือโฟเลต
กรดโฟลิค (Folic Acid) หรือ โฟเลต (Folate) เป็นสารอาหารในกลุ่มวิตามิบีที่ละลายในน้ำ มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน คำว่า “โฟเลี่ยม” ที่แปลว่า ใบไม้ เนื่องจากสารอาหารชนิดนี้ พบได้ทั่วไปในพืชผักต่างๆ
โดยมากคนมักคิดว่า กรดโฟลิค กับโฟเลต คือชนิดเดียวกัน แต่ความจริงแล้วมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย แท้จริงแล้ว กรดโฟลิค คือ สารสังเกคราะห์จากโฟเลต ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่านั่นเอง เมื่อไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลหรือปรึกษากับแพทย์เรื่องวางแผนจะมีบุตร แพทย์จะให้รับประทานกรดโฟลิค เนื่องจากมีความสำคัญต่อการผลิตเซลล์และลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อบกพร่องต่อสมองและประสาทไขมันหลังของทารก
อย่างไรก็ตาม โฟเลตมีประโยชน์สำหรับทุกคน ไม่เฉพาะผู้หญิงตั้งครรภ์เท่านั้น เนื่องจาก
• ช่วยฟื้นฟูเซลล์และผลิตเซลล์ใหม่ในร่างกาย จำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ป้องกันการเปิดโรคโลหิตจาง
• มีส่วนในการช่วยป้องกันโรคหัวใจ ลดเปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจากโฟเลตที่เพียงพอ จะช่วยลดระดับกรดชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Homocysteine ที่มีผลต่อการเป็นโรคหัวใจ และเกิดการอุดตันของหลอดเลือด
• มะเร็งบางชนิด และลดภาวะซึมเศร้าได้
โปเลตกับคุณแม่ท้อง
กรดโฟลิค หรือ โฟเลต ช่วยลดอุบัติการณ์ความพิการทางสมองในเด็กแรกเกิดได้ เพราะการที่คุณแม่ตั้งครรภ์ขาดโฟเลต จะทำให้ลูกมีความผิดปกติทางสมองและประสาท โดยเฉพาะช่วงไตมารแรกของการตั้งครรภ์ โฟเลตจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และควรรับประทานอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์ เพื่อดูแลให้การเจริญเติบโตของสมองและประสาทไขสันหลังของทารกในครรภ์ไม่ให้ผิดปกติ แพทย์จึงจะให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์รับประทานโฟเลตเสริม เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว
ปริมาณโฟเลตที่ร่างกายต้องการ
ตาม Recommended Dietary Allowances (RDAs) ระบุว่า ปริมาณโฟเลตสำหรับแต่ละคนขึ้นอยู่กับอายุ โดยปริมาณที่แนะนำดังนี้
อายุ |
ปริมาณที่แนะนำ |
1-3 ปี |
150 |
4-8 ปี |
200 |
9-13 ปี |
300 |
14-18 ปี |
400 |
อายุมากกว่า 19 ปี |
400 |
หญิงตั้งครรภ์ |
600 |
ผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตร |
600 |
สำหรับในผู้ใหญ่ที่ต้องการวันละ 400 ไมโครกรัมการรับประทานอาหารให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ ก็เพียงพอแล้วสำหรับความต้องการในแต่ละวัน ดังนั้น คนทั่วไปจึงไม่ตำเป็นต้องเสริมโฟเลต แต่ถ้ารับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือในผู้ป่วยที่รับประทานอาหารได้น้อย การเสริมโฟเลตจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
โฟเลตมากเกินไป ไม่ใช่เรื่องดี
แม้โฟเลตจะมีความจำเป็นต่อร่างกาย แต่การได้รับในปริมาณที่มากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี เนื่องจากการที่โฟเลต หรือกรดโฟลิคมีปริมาณมากเกิน ร่างกายจะขาดแคลนวิตามินบี 12 ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการรักษาอาการต้านระบบประสาท โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป การเสริมโฟเลตในผู้สู.อายุ จึงควรเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์
แหล่งที่มาของโฟเลตในอาหาร
ผักผลไม้และอาหารหลายชนิดในธรรมชาติ เป็นแหล่งของโฟเลตที่ดี แต่ต้องระวังเรื่องวิธีการปรุงอาหาร เพราะโฟเลตจะถูกทำลายได้ด้วยความร้อน การต้มหรือตุ๋นนานๆ จะทำให้สูญเสียโฟเลต หากสามารถรับประทานสดได้ ก็จะทำให้ได้รับสารโฟเลตในปริมาณมาก
อาหาร |
ปริมาณ |
กลุ่มโปรตีน |
|
ตับวัวทอดสุก 3 ออนซ์ |
221 |
ถั่วสุก ½ ถ้วย |
179 |
ถั่วชิกพีสุก ½ ถ้วย |
141 |
ถั่วลิสงคั่ว 1 ออนซ์ |
40 |
ไข่ขนาดใหญ่ 1 ฟอง |
25 |
|
|
ประเภทผัก |
|
หน่อไม้ฝรั่งปรุงสุก ½ ถ้วย |
122 |
ผักโขมต้มสุก ½ ถ้วย |
115 |
อาติโช๊คสุก ½ ถ้วย |
43 |
ผักกาดหอม ½ ถ้วย |
40 |
|
|
ประเภทผลไม้ |
|
อโวคาโด ½ ถ้วย |
45 |
ส้มขนาดกลาง 1 ผล |
39 |
น้ำมะเขือเทศ 6 ออนซ์ |
35 |
น้ำส้มคั้น 6 ออนซ์ |
35 |
แคนตาลูป ¼ ผล |
25 |
มะละกอ ½ ถ้วย |
25 |
กล้วยขนาดกลาง 1 ผล |
20 |
แหล่งที่มา USDA Nutrient Database, Release 18; NIH Dietary Supplement Fact Sheet, 2009
(Some images used under license from Shutterstock.com.)