
© 2017 Copyright - Haijai.com
ฟิลเลอร์ มรณะ
ปัจจุบันหญิงไทยใกล้จะคล้ายสาวเกาหลี สวยไม่แคร์ญาติ สวยไม่สนใจสายพันธุ์ กำลังกลายเป็นเทรนด์สาวไทยยุคใหม่ ยอมทุ่มเงินจำนวนมากก็เพื่อความสวย
กลุ่มหนึ่งสรรหาความสวยเพื่อเสริมความมั่นใจ ส่วนหนึ่งก็รอความสวยเพื่อเป็นใบเบิกทางอาชีพ ทว่าข่าวท็อปฮิตในช่วงเดือนที่ผ่านมา ไม่มีข่าวไหนที่จะได้รับความสนใจมากกว่าเรื่องของฟิลเลอร์ วิธีการทำสวยที่ได้รับความนิยมกันทั่วโลก ถูกเปิดเผยด้านมืดที่สะเทือนวงการความงาม คนที่เคยใช้วิธีนี้ทำสวยมาแล้วเป๊ะ ส่วนหนึ่งก็ออกอาการตกใจกลัว ส่วนหนึ่งแอบดีใจว่าตัวเองโชคดี ส่วนคนที่ยังไม่เคยฉีด ก็เซย์โนโน ไปเลย พอเอ่ยเรื่องฟิลเลอร์ กลายเป็นอาการกลัวเหมารวมไปหมด กับอีกกลุ่มหนึ่ง ข้าไม่สนขอให้สวยแม้เอาชีวิตแลกก็ยอม
กระแสสั่นสะเทือนวงการนี้เลยทำให้หมอต้องหยิบยกเรื่องนี้มาคุย แม้ว่าเราจะคุยกันถึงเรื่องของฟิลเลอร์ สวยด้วยเข็มมาหลายๆ ครั้ง ครั้งนี้หมอจะชวนคุยกันให้รู้ไปเลยว่า ฟิลเลอร์นำไปสู่มรณะจริงหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้น มันน่าคิดเหมือนกัน ทำไมฟิลเลอร์ยังคงติดอันดับตลอดกาล ของวิธีทำสวยเป็นอันดับสองของโลก รองจากการฉีดโบท็อกซ์มานานนับหลายปีที่ผ่านมา โดยไม่มีทีท่าว่าจะตกอันดับ แถมยังมีอัตราที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี อยากรู้ต้องหาคำตอบ
ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเพื่อความสวยงามที่ฉีดเข้าไปในเนื้อเยื่อใต้ผิวหน้าเพื่อเสริมเติมแต่งให้สวยงาม จริงๆ แล้วมีหลายประเภท ข้อมูลในวิกีพีเดีย พูดถึงฟิลเลอร์ในกลุ่มฉีดใต้ผิวหนังส่วนใหญ่เอาไว้ว่า มาจากสารไฮยารูลอนิก แอซิดและพูดถึงแต่เพียงสารฟิลเลอร์ที่ใช้ในอเมริกาแค่ 3 ชนิด เฉพาะตัวที่มีการทำการตลาดอย่างกว้างขวาง ขณะที่สารฟิลเลอร์ที่มีการใช้ในโลกมีมานานกว่า 60 ปี ที่ป๊อปปูลาร์มากที่สุด คือ การใช้สารซิลิโคน ที่ถูกแบนในเวลาต่อมา
หมอจำได้ว่าตอนหมอยังเรียนอยู่ที่อเมริกายี่สิบปีก่อน การใช้ฟิลเลอร์แม้จะเป็นเรื่องฮือฮาในวงการแพทย์ผิวหนัง เริ่มมีการเรียนการสอนการฉีดทั้งฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ แต่ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่ได้รับความสนใจมากเท่าขนาดนี้ อาจเป็นเพราะโลกอินเตอร์เนตไม่ได้เชื่อมต่อโลกทั้งใบเหมือนปัจจุบัน สมัยนั้นการเรียนการสอนยังมีอยู่จำกัดในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป ยิ่งสมัยนั้นไม่ต้องพูดถึงในประเทศไทย คนที่จะรู้จักฟิลเลอร์น้อยมาก รวมถึงแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ก็มีจำนวนน้อยนับคนได้ ต้องเป็นแพทย์ที่จบมาจากเมืองนอก เพราะการฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้ถูกบรรจุในการเรียนการสอนของแพทย์ในประเทศไทยและหลายๆ ประเทศ การหาความรู้ต้องศึกษาเพิ่มเติมเอาเองจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือฝั่งประเทศยุโรปที่มีการฉีดสารฟิลเลอร์มายาวนานมากกว่า ไม่ต้องแปลกใจที่จะเห็นว่าโรงงานผลิตฟิลเลอร์มักอยู่ในประเทศยุโรปเกือบทั้งหมด ยุโรปจึงนับว่าเป็นซีกโลกที่มีความก้าวหน้าในด้านความสวยความงามมากกว่าในฝั่งสหรัฐอเมริกาที่มีกฎกติกามากมาย
ส่วนถ้าพูดถึงผลข้างเคียงรุนแรง ไม่เคยมีการพูดถึงหนาหูเหมือนขณะนี้ เนื่องจากจำนวนการใช้ของแพทย์ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา บวกกับเทคนิคการฉีดยังไม่ได้หลากหลายก้าวหน้าเหมือนสมัยนี้ แถมปัจจุบันมีการฉีดโดยผู้ช่วยแพทย์แบบลักจำ พยาบาลที่ขาดความรู้ความชำนาญ นึกว่าแค่มือจับเข็มก็ฉีดได้ เอาราคาถูกมาท่อ จึงเห็นข่าวผลข้างเคียงรุนแรงไปทั่วโลก โดยที่ส่วนใหญ่ผลข้างเคียงนี้เกิดจากคนฉีดที่ไม่ใช่แพทย์ และจากการใช้สารที่ไม่ปลอดภัย
เพราะกระแสความนิยมการใช้ศัลยกรรมแบบไม่ต้องใช้มีดมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้แพทย์ส่วนใหญ่หันมาจับเข็มแทนมีดในการทำสวย โดยไม่ต้องมีการเรียนเพิ่มเติม เพราะทำได้ง่ายกว่า นั้นคือสาเหตุที่ทำให้การฉีดกลายเป็นที่นิยมของทั้งหมอและคนไข้ ทำได้ง่าย ไม่ต้องเตรียมตัว ไม่ต้องเสี่ยงดมยา ไม่เจ็บตัวมาก ไม่ต้องพักฟื้นมากมาย ไม่ต้องดูแลอะไรเยอะ แฮปปี้ทั้งหมอทั้งคนไข้ สวยเนรมิตในเวลาอันสั้น จะเสริมดั้งก็ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที จะอัพหน้าก็ไม่เกิน 30 นาที จะทำอะไรก็ดูง่ายไปหมด แต่ทว่าในความง่าย อาจมีอันตรายแอบแฝงอยู่
ถ้าทำโดยคนที่ไม่ใช่แพทย์หรือแพทย์ที่ขาดความรู้ความชำนาญที่มากพอ ขาดประสบการณ์ และขาดพื้นฐานความรู้ที่สำคัญ ยังไม่นับชั่วโมงบินและความเป็นศิลปะที่จะช่วยให้งานออกมาสวยงามดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่บล็อกพลาสติกที่เหมือนกันจนกลายเป็นมีพี่น้องร่วมโลกเต็มไปหมด หรือมีแฝดเหมือนคนละสายพันธุ์ ส่วนถ้าพูดถึงผลข้างเคียงการทำศัลยกรรมทุกอย่างมีผลข้างเคียง ทั้งใช้มีดและใช้เข็ม แม้กระทั่งการฉีดสิวก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้ไม่ต่างกับการฉีดฟิลเลอร์ ถ้าหากไม่ได้ทำโดยแพทย์ที่มีความรู้ที่เป็นแพทย์จริงๆ ไม่ใช่หมอกระเป๋าเด็กฝึกหัดจากผู้ช่วยแพทย์ จบมัธยมหรือผู้ช่วยพยาบาลเก๋าที่คิดว่าตัวเองเก่ง มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ต่อให้ลงข่าวหน้าหนึ่ง ออกทีวี หมอกระเป๋าพวกนี้ก็ยังมีคนเรียกใช้บริการอยู่ตลอด ยังไม่นับการเลือกใช้สารที่ผ่านการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน สารที่ไม่ผ่านด่านคณะกรรมการอาหารและยา
สิ่งที่คุณต้องดูก่อนฉีดมีดังนี้
• ตัวยาที่ใช้ สารที่ปลอดภัยสำหรับฟิลเลอร์ เพื่อความงามในปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับกันแล้วทั่วโลกว่าควรเป็นสารไฮยารูลอนิก แอซิค (Hyaluronic acid) เท่านั้น สารนี้เป็นสารธรรมชาติที่เป็นส่วนประกอบใต้ผิวหนังของมนุษย์ทุกคนอยู่แล้วและยังหมายรวมถึงสัตว์อื่นๆ ไม่มีลักษณะจำเพาะต่อชนิดของสิ่งมีชีวิต นั่นหมายความว่า สารนี้ในคนหรือสัตว์ทุกชนิดมีลักษณะและคุณสมบัติเหมือนกัน สามารถรวมตัวกับผิวมนุษย์ได้ดี และสลายตัวหมดตามธรรมชาติร้อนเปอร์เซ็นต์ ไม่มีการตกค้างในร่างกาย ข้อเสียคือ มีอายุอยู่ไม่นานตั้งแต่ 1-2 เดือนไปจนถึงปีครึ่ง ตามชนิดและความเข้มข้นของแต่ละยี่ห้อ ผิวบางคนตำแหน่งของการฉีด สุขภาพภายใน ความเครียด สารอนุมูลอิสระ อาจอยู่ได้สั้นหรือนานกว่านั้น แต่ที่มีการโฆษณาว่าอยู่ได้นานเกิน 2-3 ปีไปแล้วต้องระวัง ไม่ใช่สารไฮยารูลอนิกแน่ๆ ฉีดให้ปลอดภัย ต้องเลือกสารที่มีขบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
• แพทย์ผู้ฉีด ปัจจัยสำคัญที่สุด แม้ว่าจะเลือกใช้สารที่ปลอดภัย หากการฉีดทำโดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หรือแพทย์ที่ขาดความรู้และประสบการณ์ โดยเฉพาะความรู้ด้านกายวิภาคศาสตร์ที่เป็นความรู้เบื้องต้นที่ควรมีฟิลเลอร์เนรมิตความสวย ก็อาจทำให้เกิดอันตรายกลายเป็นฟิลเลอร์มรณะได้
ผลข้างเคียงรุนแรงที่พบได้ มีดังนี้
เนื้อตาย ติดเชื้อ และสูญเสียการมองเห็น เพราะบนใบหน้าของเรามีเส้นเลือดอยู่มากมาย เส้นเลือดบนใบหน้าจะเรียงกันเหมือนร่างแห ตัวที่สำคัญ คือ เส้นเลือดแดง เพราะเป็นเส้นเดียวที่นำเลือดดีไปเลี้ยงอวัยวะบนใบหน้า และเป็นเส้นเลือดที่มีแรงดันที่เกิดจากการเต้นของหัวใจ เวลาที่มีก้อนอะไรไปอุดในเส้นเลือดแดง ก็อาจทำให้เกิดการอุดตันไม่สามารถที่จะนำเลือดที่มีออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะบริเวณนั้นๆ ได้ ขาดเลือดไปเลี้ยงและตายในที่สุด เช่น ถ้าเส้นเลือดบริเวณที่ไปเลี้ยงผิวหนังบริเวณจมูกอุดตันก็จะทำให้เกิดเนื้อตายบริเวณจมูก ถ้าไปอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณจอประสาทตาก็ทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็น ถ้าอุดแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ทำให้เกิดอาการขาดเลือดไปเลี้ยงตา เกิดปัญหาอาการตาบอด ก็นับว่าเป็นจุดที่อันตรายที่สุด โอกาสที่จะดีขึ้นน้อยมา ต้องรักษาเร็วและภายในเวลาไม่เกินชั่วโมงครึ่ง ไม่เช่นนั้นจอประสาทตาจะเกิดการตายอย่างถาวร ถ้าเป็นสารไฮยารูลอนิกวิธีช่วยยังมีถ้าทำได้ทันท่วงที นวดตา ประคบอุ่น ป้ายยาที่ทำให้มีการขยายตัวของหลอดเลือด รีบฉีดสารสลายสารไฮยารูลอนิกและฉีดตามเข้าไปสลายในเส้นเลือด จึงสามารถแก้ไขได้ถ้าได้รับการรักษาช่วยเหลืออย่างทันท่วงที แต่หากใช้สารอื่นๆ ที่เป็นฟิลเลอร์แบบถาวรหรือแม้กระทั่งเซลล์ไขมัน ก็ยากที่จะช่วยเหลือ กรณีที่สารที่อุดวิ่งไปที่บริเวณอื่นๆ ในสมองก็อาจทำให้เกิดอาการตายของเนื้อเยื่อบริเวณนั้นๆ อาจทำให้เป็นอัมพฤติอัมพาต โคม่า หรือถึงแก่ชีวิตได้
คำถามยอดฮิตที่หมอมักจะได้รับเสมอๆ คือ ถ้ามันน่ากลัวขนาดนั้นแล้วทำไมถึงมีการรักษานี้มากเป็นอันดับต้นๆ ท็อป 3 ของโลก คำตอบจึงอยู่ที่ข้อนี้เป็นสำคัญ แพทย์ต้องมีเทคนิคการฉีดที่ดี ความรู้ด้านกายวิภาคศาสตร์ทำให้รู้ว่าตำแหน่งใดของใบหน้ามีการเรียงตัวของเส้นเลือดอย่างไร มีตำแหน่งใดบ้างที่ต้องระมัดระวัง แม้ว่าในแต่ละคนจะมีการวิภาคศาสตร์ที่มีความแตกต่างกัน แต่การระมัดระวังในการฉีด เลือกฉีดในตำแหน่งที่ไม่มีเส้นเลือด เช่น ถ้าจะฉีดจมูกต้องฉีดในชั้นติดกระดูกของจมูก รู้ตำแหน่งที่ห้ามฉีด รู้ชั้นของการฉีดในแต่ละบริเวณของใบหน้า การวางเข็ม เทคนิคการฉีด การดันยา การทำด้วยความนุ่มนวลระมัดระวัง การเลือกใช้เข็มปลายทู่ เพื่อช่วยลดอัตราการฉีกขาดของหลอดเลือดที่สำคัญในตำแหน่งที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เมื่อไม่แท่งทะลุเส้นเลือด โอกาสเกิดสารหลุดเข้าไปในเส้นเลือดจึงไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี การใช้ปลายทู่ที่มีขนาดเล็กเกินไป อาจเกิดปัญหาที่ทำให้เกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดได้เช่น การใช้เข็มปลายทู่ขนาดใหญ่ จึงช่วยลดความบอบช้ำของเนื้อเยื่อได้ดีกว่า ที่สำคัญเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแพทย์ต้องสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที มียาที่ใช้ช่วยสลายฟิลเลอร์ทันที นอกจากนี้เทคนิคการฉีดต้องปลอดเชื้อ ไม่ควรทำโดยบุคลากรที่ไม่ใช่แพทย์ เครื่องมือต้องผ่านกรรมวิธีที่ฆ่าเชื้ออย่างดีมาตรฐานทั้งตัวยาฉีดที่ใช้ เครื่องมือที่ใช้ และต้องถูกใช้ด้วยเทคนิคที่ปลอดเชื้อ การใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อก็ช่วยลดผลข้างเคียงนี้ได้ ถ้ามีการฉีดในปริมาณมาก กรณีที่ผู้รับมีประวัติโรคประจำตัวอยู่หรือเคยทำการผ่าตัดบริเวณนั้นมาก่อนที่อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาคศาสตร์ มีประวัติเลือดออกง่าย เป็นโรคภูมิเพี้ยน ภูมิแพ้รุนแรงที่เคยมีอาการช็อก ตั้งครรภ์อยู่ ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทุกครั้ง
เรื่องของคนไม่อยากแก่ เรื่องของความอยากสวยมิใช่สิ่งผิด ความสวยมิใช่ความฝันต้องห้ามที่ไกลเกินเอื้อม หากทว่าความสวยบนพื้นฐานของความปลอดภัยต่างหาก ที่จะช่วยให้คุณสวยอย่างมีความสุข
พญ.อัจจิมา สุวรรณจินดา
Line ID : dr.atchima
(Some images used under license from Shutterstock.com.)