
© 2017 Copyright - Haijai.com
Knowledge and Understanding of the world การเรียนรู้และเข้าใจโลกกว้าง
เมื่อเด็กเติบโตขึ้น และก้าวเข้าสู่วัยของการเรียนรู้ที่มากขึ้น กว้างขึ้น ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พบเห็นรอบตัวทั้งที่บ้าน โรงเรียน สนามเด็กเล่น สวนสัตว์ ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด ต้นไม้สีเขียวแปลกตาที่เห็นเมื่อตอนไปเที่ยวหัวหินกับคุณพ่อคุณแม่ ทุกอย่างที่ลูกเห็นล้วนนำมาซึ่งความตื่นตา ตื่นใจ อยากรู้อยากเห็น อยากหาคำตอบ ว่าต้นไม้นั่นคือต้นอะไร ทำไมหอยทากจึงมีเปลือกหุ้ม ปูเสฉวนทำไมต้องมีบ้านเปลือกหอย ความสงสัยใคร่รู้ของเด็ก จะช่วยส่งเสริมให้เขาค่อยๆ มีความคิดที่เป็นกระบวนการมากขึ้น มีเหตุ มีผล เรียนรู้อย่างมีระบบ ชอบหาคำตอบในเรื่องที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน และเมื่อเด็กค้นหาคำตอบในเรื่องที่อยากรู้ได้แล้ว เขาจะเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้น ทำให้เกิดเป็นแรงกระตุ้นให้เด็กชอบที่จะไปโรงเรียน เพราะที่โรงเรียนคุณครูจะคอยสอนให้เรียนรู้ในเรื่องใหม่ๆ อยู่เสมอ
“แม่คะ ทำไมเวลาฝนตก ฟ้าต้องร้องด้วยละคะ ? แม่คะ ทำไมไฟจราจรต้องมีสีเหลือง สีแดง สีเขียวด้วยคะ ? อืมมมมม แม่คะ ทำไม ????????????????”
เด็กในวัย 6-9 ขวบ เป็นวัยที่ชอบการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ มีพัฒนาการที่พร้อมสมบูรณ์ในทุกด้านทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม ภาษา สติปัญญา และจริยธรรม (สอนเรื่องกฎระเบียบ วินัย) เด็กวัยนี้ชอบที่จะทำงาน (ช่วยล้างจาน รดน้ำต้นไม้ ช่วยคุณพ่อล้างรถ ฯลฯ) ชอบคิด จินตนาการ ชอบเขียน ชอบอ่าน ชอบดูการแข่งขัน หรือบางครั้งก็ลงแข่งขันด้วยตนเอง (แข่งวิ่งกีฬาสีที่โรงเรียน ชอบดูการแข่งขันฟุตบอล ฯลฯ) ชอบสร้างสรรค์สิ่งที่แปลกใหม่
การเลี้ยงดูเด็กวัยนี้ต้องให้โอกาสเด็กได้มีประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ จากการช่วยกิจกรรมในบ้านตามความสามารถของเด็ก พร้อมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กในการทำหน้าที่ของการเป็นสมาชิกของครอบครัว สมาชิกของสังคม สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะต้องให้กับลูกวัยนี้ คือ
• สอนลูกให้รู้จักคิด รู้จักพูดให้เป็นในเรื่องที่ดี และเป็นประโยชน์
• สอนให้ลูกรู้จักการใช้เหตุ และผล ด้วยการพูด การฟัง และการยอมรับความคิดเห็นของกันและกัน (นอกจากพ่อแม่แล้ว เด็กจะต้องรู้จักรับฟังคนรอบข้างด้วย)
• สอนให้ลูกรู้จักความรับผิดชอบ เช่น เมื่อทานข้าวเสร็จแล้วต้องเอาจานไปล้าง หรือเก็บที่อ่างล้างจาน เวลากินอาหาร ขนม นม ฯลฯ ต้องกินให้หมด อย่ากินทิ้งกินขว้าง
• สอนให้ลูกรู้ว่า ต้องต่อแถวทุกครั้งที่ซื้ออาหารที่โรงเรียน ต่อแถวซื้อตั๋วเวลาที่ต้องขึ้นรถไฟฟ้า เป็นต้น
• สอนลูกให้รู้จักการรอคอย หากลูกต้องการจะยืมหนังสือจากห้องสมุดที่โรงเรียน แต่มีคนอื่นยืมไปก่อนหน้านี้แล้ว ลูกก็ต้องลงชื่อจองคิวไว้ และรอรับหนังสือตามคิว
การเรียนรู้
เด็กๆ ในวัยนี้มีความสามารถที่จะมองเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง เด็กจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้านั้น เรื่องใดเป็นเรื่องจริง เรื่องใดไม่ใช่เรื่องจริง ลูกอายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป เป็นวัยของการเรียนรู้ในเรื่องที่ดี และเป็นประโยชน์ เพื่อเป็นการสร้างนิสัยที่ดีงามต่อทั้งกับตนเอง ครอบครัว และคนรอบข้าง
• ร่างกาย ต้องการการเจริญเติบโตที่แข็งแรงขึ้น สามารถทำอะไรต่างๆ ได้คล่องแคล่ว เด็กจึงชอบที่จะเดิน วิ่ง กระโดด ใช้มือ ใช้เท้า สัมผัสดิน ทราย น้ำ ต้นหญ้า แสดงท่าทางประกอบเมื่อเกิดความรู้สึกต่อสิ่งนั้นๆ ขึ้น เพื่อให้กลไกลของร่างกายทั้งภายนอก ภายใน ไม่ว่าจะเป็น กระดูก กล้ามเนื้อ หัวใจ สมอง ได้พัฒนาอย่างสมบูรณ์เต็มที่
• จิตใจ เด็กเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยการสัมผัส รับรู้ คิด และซึมซับสิ่งต่างๆ ไว้เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตนเอง เด็กมักที่จะมีอารมณ์อ่อนไหวต่อสิ่งเร้าที่มากระทบจิตใจได้ง่าย เช่น ถูกเพื่อนแกล้ง คุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกัน หรือเวลาที่ลูกมีความสุขมากๆ อารมรณ์ล้วนมีผลต่อจิตใจได้ทั้งด้านลบ และด้านบวก
• อารมณ์ จิตใจของคนเราจะเชื่อมต่อกับอารมณ์ ความคิด ความรู้สึก เด็กมักจะมีอารมณืที่ดีเมื่อมีเรื่องที่ดีเข้ามาและจิตใจของเขาก็สามารถที่จะสัมผัสเรื่องดีเรื่องนั้นได้
• สังคม เด็กต้องการพัฒนาการเรียนรู้สังคม เด็กจะรู้วิธีที่จะผูกมิตรด้วยการเข้าหาผู้อื่นก่อน เป็นการเรียนรู้ที่จะมีเพื่อน
• สติปัญญา เด็กต้องการการพัฒนาทางทางสติปัญญาหลายด้าน พ่อแม่ต้องรู้จักสอดแทรกเรื่องที่เป็นประโยชน์ให้กับลูกด้วย ถ้าอยากให้ลูกเรียนเก่ง พ่อแม่ต้องให้ลูกค่อยๆ เรียนรู้ แต่ไม่ควรให้แบบยัดเยียด การให้ลูกได้รู้จักผ่อนคลายกับการเรียน จะทำให้เด็กเรียนรู้ได้มากขึ้น และสนุกกับการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
(Some images used under license from Shutterstock.com.)