Haijai.com


เทคนิคทาครีมกันแดด ให้สวยเริ่ดรับลมร้อน


 
เปิดอ่าน 4739

เทคนิคทาครีมกันแดด ให้สวยเริ่ดรับลมร้อน

 

 

ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ อาการร้อนๆ แบบนี้นับได้ว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของผิวทีเดียว นอกจากอุณหภูมิทะลุ 40 องศา แล้วในช่วงนี้  ทำเอาหลายคนร้อนจนแทบละลาย ทำให้ไม่สบายเนื้อสบายตัว แล้วเจ้าศัตรูตัวร้ายนี้ ยังทำให้ผิวไหม้ หรือคล้ำกันไปเลยทีเดียว แถมยังเป็นอันตรายต่อผิวสวยๆ ของคุณอีกต่างหาก

 

 

อากาศที่ร้อนแรงแสงแดดแผดเผาอย่างนี้ อาจนำมาซึ่งปัญหาผิวได้ง่าย เจองานเข้าอย่างนี้หลายคนถึงกับกุมขมับ เพราะทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านแล้ว แต่ผิวกลับยังคล้ำไม่เลิก ผลลัพธ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด นั่นอาจจะไม่ได้เป็นเพราะคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่อาจเป็นเพราะคุณไม่รู้วิธีการทาครีมที่ถูกต้องต่างหาก

 

 

การเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับสภาพผิวก็มีความสำคัญไม่น้อย มีข้อไหนที่คุณยังขาดตกบกพร่องในการใช้ครีมกันแดดอย่างถูกวิธีกันบ้าง หลายคนสับสนและสงสัยว่าการทาครีมกันแดดควรทาก่อนครีมบำรุง หรือหลังครีมบำรุงกันแน่ แล้วทาตอนไหน

 

 

จริงๆ แล้วควรทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก่อนรอจนครีมซึมลงผิวสักพัก จากนั้นจึงเกลี่ยครีมกันแดดลงไปบางๆ ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ จะช่วยให้ครีมกันแดดเกาะติดผิวหน้าได้ตลอดวัน สำหรับสาวๆ ที่มีผิวมันและผิวแพ้ง่าย ให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบาในรูปแบบของเจล หรือเซรั่ม เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันและระคายเคืองผิวได้ง่าย ส่วนคนที่มีผิวแห้ง หรือผิวผสม จะเหมาะกับครีมกันแดดชนิดโลชั่น หรือครีมที่มีความเข้มข้น และช่วยให้ผิวดูชุ่มชื่นไม่แห้งกร้าน

 

 

ซึ่งประโยชน์ของครีมกันแดด จะช่วยปกป้องการทำลายเซลล์ผิวหนัง จากรังสีอัลตร้าไวโอเลตในแสงแดด ซึ่งเป็นต้นเหตุของมะเร็งผิวหนัง และยังทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง ดังนั้น การใช้ครีมกันแดด จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเกิดจุดด่างดำบนผิวหนังมากกว่า

 

 

วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้องและได้ผล

 

1.ควรทาครีมกันแดดบางๆ แต้มครีมให้ทั่วทั้ง 5 จุด บนใบหน้า คือ เริ่มจากหน้าผาก จมูก แก้มทั้งสองข้างและคาง แล้วใช้นิ้วกลางและนิ้วนางในการเกลี่ยครีมให้ทั่วใบหน้า โดยเริ่มจากบริเวณที่กว้างที่สุดก่อน เช่น โหนกแก้มส่วนกลาง ไปยังส่วนข้างๆ โดยทางด้านซ้ายออกซ้าย และทางด้านขวาออกขวา แล้วตามด้วยแนวสันจมูก ใต้โพรงจมูก คาง และหน้าผาก โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาไว้

 

 

2.จำนวนครั้งที่ทาต่อวัน เรื่องนี้คำนึงถึงเรื่องระยะเวลาในการป้องกันแดดของครีมกันแดดด้วย ซึ่งโดยทั่วไปอยู่ที่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น และประสิทธิภาพก็จะค่อยๆ ลดลง แต่ถ้าทำงานอยู่ในห้องแอร์หรือออฟฟิศ เลือก SPF 15 ก็เพียงพอแล้ว ทาเพียงวันละครั้งก็เพียงพอ ส่วนคนที่ชอบเล่นกีฬา หรือต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ ทำให้มีเหงื่อออกได้ง่าย ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป

 

 

3.ปริมาณของครีมกันแดดที่ควรใช้ ด้วยราคาของครีมกันแดดที่ค่อนข้างสูง หลายคนใช้ในปริมาณที่น้อยนิด ไม่มากพอต่อการกันแดดในแต่ละวัน อย่าลืมทาครีมบริเวณลำคอเด็ดขาด ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับผิวหน้าและคอ คือ ปริมาณ 1 ช้อนชา ส่วนครีมกันแดดที่ใช้กับแขนและขา ปริมาณที่เพียงพออยู่ที่ 1 ช้อนโต๊ะ

 

 

4.การทาครีมที่คอเริ่มจากบริเวณที่กว้างที่สุดของคอก่อน คือ บริเวณฐานลำคอแล้วใช้ปลายนิ้วทั้งหมดค่อยๆ ลูบไล้ขึ้น ไม่ควรทาลง เพราะจำทำให้ผิวบริเวณลำคอหย่อนทำให้เกิดรอยย่นภายหลังได้

 

 

วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด

 

1.ดูค่า SPF ครีมกันแดดยี่ห้อนั้น ว่าสามารถป้องกัน UVB ได้กี่เท่า ซึ่งครีมกันแดดที่ดีควรจะป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB สำหรับ UVA นั้นเป็นรังสีที่ทำให้เซลล์ผิวเสียหายจนเป็นรอยเหี่ยวย่นได้ แต่ยังไม่มีค่ามาตรฐานกำหนด ปัจจุบันจึงนิยมใช้ PA และเครื่องหมาย + เป็นตัวบอก ดังนั้น ควรเลือกครีมกันแดดที่ระบุว่า PA++ ขึ้นไป ส่วน UVB นั้น เป็นครีมกันแดดที่ป้องกันอาการแพ้ แดงแสบ และรอยไหม้ของผิวหนัง โดยปกติคนไทยมีผิวคล้ำซึ่งเม็ดสีสามารถป้องกัน UVB ได้บ้าง ดังนั้น ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 15 ก็เพียงพอ

 

 

2.สำหรับคนที่มีผิวขาว ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่าปกติเล็กน้อย เพราะผิวขาวจะไวต่อการรับแสงแดดมากกว่าคนผิวคล้ำนั่นเอง โดยควรเลือกดังนี้

 

 

 ผิวขาวแบบชาวยุโรป เป็นผิวบางมาก เกิดผิวไหม้ง่ายมากหลังสัมผัสกับแสงแดด ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ (SPF 45-60)

 

 

 ผิวขาวอมชมพูแบบคนเอเชีย เป็นผิวที่บอบบางมากเกิดผิวไหม้ได้ไว ทำให้ผิวเป็นสีแทนได้ ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ค่อนข้างสูง (SPF 30-45)

 

 

 ผิวขาวเหลืองในคนเอเชีย ผิวชนิดนี้บอบบางแต่ยังมีเมลานินอยู่บ้าง จึงสามารถทนต่อแสงแดดได้ดีกว่า

 

 

ผิว 2 ชนิดแรก ควรเลือกครีมกันแดดชนิดที่มีค่า SPF ปานกลาง (SPF 30)

 

 

3.ผิวคล้ำ เป็นผิวที่มีเมลานินสูง ไม่เกิดการไหม้ ไม่เกิดสีแทน จึงควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ต่ำ (SPF 15) ก็เพียงพอแล้ว

 

 

หนุ่มสาวทั้งหลายรู้เคล็ดลับการใช้ครีมกันแดดอย่างถูกวิธี และมีประสิทธิภาพอย่างนี้แล้ว คราวนี้ต่อให้เผชิญกี่แดดก็เอาอยู่

 

 

กิรณา แก้วกาหลง (โปรน้อง)

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ยกกระชับช่องคลอด Vaginal Lift Vaginal Morpheus Pro Morpheus ยกกระชับ Oligio Body Oligio IV Drip ดริปวิตามิน Emsella รีแพร์ เลเซอร์นอนกรน นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก ลดน้ำหนัก Emsculpt สลายไขมัน สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting romrawin รมย์รวินท์ Belotero ผิวฉ่ำ Glassy Skin Juvederm Coolsculpting เลเซอร์รอยสิว Meso Hair Skinvive ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย โบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime Ulthera Ulthera Thermage FLX Thermage Oligio Oligio ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร กำจัดขน เลเซอร์ขน เลเซอร์ขน Pico Laser Pico Majesty Reepot Laser Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Sculptra Sculptra Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse UltraClear AviClear Accure Laser Fit Firm Emsculpt Coolsculpting Elite NAD+ ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP Vaginal P-SHOT O-Shot LLLT ปลูกผม รักษาผมร่วง ผมร่วง ผมบาง ปลูกผม ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม ดูดไขมัน ดึงหน้า ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก วีเนียร์ Apex