Haijai.com


ท้องอืดท้องเฟ้อ อาการจุกเสียดอาหารไม่ย่อย


 
เปิดอ่าน 140631

ท้องอืดท้องเฟ้อ อาการจุกเสียดอาหารไม่ย่อย

 

 

อาการท้องอืดท้องเฟ้อและอาหารไม่ย่อยเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยผู้ที่มีอาการอาจประสบกับภาวะอึดอัดจุกเสียดแน่นท้องบริเวณลิ้นปี่หรือเหนือสะดือ ร่วมกับท้องอืดท้องเฟ้อมีลมในกระเพาะอาหาร ทำให้เรอ หากเป็นมากจะมีอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่หรือยอดอก อาการเหล่านี้เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของโรคในระบบทางเดินอาหารที่ทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์

 

 

ข้อมูลจากสมาคมโรคทางเดินอาหารแห่งประเทศไทยพบว่า คนไทยมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อและอาหารไม่ย่อยถึงร้อยละ 25 โดยพบได้ทุกช่วงอายุ ตั้งแต่วัยรุ่นวัยทำงาน จนถึงวัยสูงอายุ ช่วงอายุที่พบบ่อยมาก คือ อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากกลุ่มคนในวัยดังกล่าวมีการทำงานของระบบการย่อยอาหารที่เสื่อมถอยลงตามวัย ซึ่งอาการท้องอืดท้องเฟ้อนี้ อาจเป็นเพียงแค่ความผิดปกติของระบบย่อยอาหารหรือการหลังกรด หรืออาจเป็นสัญญาณของโรคที่ร้ายแรง เช่น ถุงน้ำดีอักเสบหรือมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร

 

 

สาเหตุของอาการท้องอืดท้องเฟ้อ

 

 การทำงานที่ผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เป็นสาเหตุที่พบมากที่สุดในผู้ที่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ เกิดจากกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กทำหน้าที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น กระเพาะบีบตัวช้าหรือบีบตัวไม่ได้ เกิดการหลั่งกรดที่ผิดปกติ กระเพาะอาหารไวต่ออาหารบางชนิด เช่น อาหารรสจัด เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคให้การย่อยอาหารในกระเพาะอาหารและการเคลื่อนตัวของอาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กเป็นไปด้วยความลำบาก ทำให้เกิดการสะสมของฟองอากาศหรือแก๊สในกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้อึดอัดแน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ

 

 

 รอยโรคในระบบทางเดินอาหาร สาเหตุนี้เกิดจากพยาธิสภาพในอวัยวะที่ย่อยอาหารเอง เช่น กระเพาะอาหารอักเสบรุนแรง มีแผลในกระเพาะอาหาร มีเชื้อโรคแบคทีเรียซ่อนอยู่ กลุ่มเนื้องอกในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น การอักเสบของอวัยวะช่วยย่อยอาหาร เช่น ถุงน้ำดี ทางเดินน้ำดี ตับ ตับอ่อนอักเสบ เป็นต้น ซึ่งการอักเสบของอวัยวะช่วยย่อยเหล่านี้มักมีสาเหตุมาจากนิ่วไปอุดตันทางเดินน้ำดี

 

 

 รอยโรคอื่นๆ ในช่องท้อง เช่น พังผืดจากการผ่าตัดไปขัดขวางการทำงานของระบบย่อยอาหาร การเกิดน้ำสะสมในช่องท้องจากการสร้างน้ำที่ผิดปกติ อาทิ โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ หรือโรคมะเร็งบางชนิดที่แพร่กระจายในช่องท้อง (ได้แก่ มะเร็งในระบบทางเดินอาหารและมะเร็ง จากอวัยวะสืบพันธุ์สตรีขั้นลุกลาม) และทำให้มีน้ำในช่องท้องมากจนเกิดอาการจุกเสียดแน่นท้อง

 

 

ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ

 

 พฤติกรรมการบริโภค เช่น รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา เร่งรีบ รับประทานอาหารที่ย่อยยาก อาหารมันหรือมีรสจัดทุกประเภท รับประทานอาหารที่กระตุ้นการหลั่งกรด เช่น เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน โกโก้ หรือแอลกอฮอล์รับประทานอาหารปริมาณไม่เหมาะสม เช่น มากหรือน้อยจนเกินไป

 

 

 ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียด การใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น การออกกำลังกายหรือนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร การเคี้ยวหมากฝรั่งเนื่องจากจะมีการกลืนอากาศขณะเคี้ยว

 

 

อาการที่ต้องมาพบแพทย์โดยด่วน

 

 มีอาการจุกเสียดอาหารไม่ย่อยร่วมกับมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้สูง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการอักเสบของอวัยวะในทางเดินอาหารส่วนต้น เช่น ถุงน้ำดีทางเดินน้ำดี ตับ ตับอ่อนอักเสบ เป็นต้น โดยมักเกิดกับผู้สูงอายุที่มีน้ำหนักตัวมากและชอบรับประทานอาหารมัน

 

 

 มีอาการจุกเสียดอาหารไม่ย่อยร่วมกับอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายดำ ซึ่งมีสาเหตุมาจากมีเลือดออกในทางเดินอาหาร โดยมักเกิดกับผู้สูงอายุที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือรับประทานยาแก้ปวดหรือยาสเตียรอยด์เป็นประจำ

 

 

 มีอาการจุกเสียดอาหารไม่ย่อยร่วมกับปวดท้อง อาเจียนมาก ไม่ถ่าย ไม่ผายลม ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากพังผืดในช่องท้องไปขัดขวางการทำงานของอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร โดยมักเกิดกับผู้สูงอายุที่เคยได้รับการผ่าตัดช่องท้องมาก่อน

 

 

 มีอาการจุกเสียดอาหารไม่ย่อยร่วมกับเบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ อาเจียน ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งถุงน้ำดี เป็นต้น

 

 

 มีอาการจุกเสียดอาหารไม่ย่อยร่วมกับท้องบวมโต ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากมีน้ำส่วนเกินในช่องท้องจากโรคตับ โรคไต โรคหัวใจ หรือโรคมะเร็งชนิดแพร่กระจายบางชนิด

 

 

 มีอาการจุกเสียดอาหารไม่ย่อยร่วมกับแสบร้อนบริเวณยอดอกและลิ้นปี่ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากโรคกรดไหลย้อน

 

 

 มีอาการจุกเสียดอาหารไม่ย่อยทุกชนิด ที่รับประทานยาแล้ว อาการไม่ดีขึ้นหรือเป็นเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์ในทุกกรณี

 

 

“พฤติกรรมการบริโภคมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อในผู้สูงอายุ ดังนั้น ผู้สูงอายุควรใส่ใจในเรื่องอาหารการกินและสังเกตความผิดปกติของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ”

 

 

การวินิจฉัยและการรักษา

 

แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อช่วยในการวินิจฉัย ในกรณีที่สาเหตุของอาหารไม่ย่อย ท้องอื้อท้องเฟ้อเป็นไม่รุนแรงและน่าจะมีสาเหตุมาจาก การหลั่งกรดหรือการทำงานของระบบย่อยอาหารที่ผิดปกติ แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานยา เช่น ยาลดกรด ยาช่วยย่อย ยาขับลม ยาเคลือบกระเพาะอาหาร หรือยาถ่าย แล้วแต่กรณี ร่วมกับการให้ผู้ป่วยลดน้ำหนักตัวและปรับพฤติกรรมการบริโภคในชีวิตประจำวัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้น แพทย์อาจใช้วิธีการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมโดยการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น การกลืนแป้งและถ่ายภาพรังสี เพื่อดูการทำงานของระบบย่อยอาหาร การทำอัลตราซาวนด์ หรือการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ช่องท้องแล้วแต่กรณี โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่สงสัยพยาธิสภาพอื่นๆ ในช่องท้อง เช่น มะเร็ง เป็นต้น

 

 

คำแนะนำ

 

เนื่องจากสาเหตุของอาการท้องอืดท้องเฟ้อส่วนใหญ่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมีปัจจัยกระตุ้นมาจากพฤติกรรมในการบริโภคที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นแนวทางการป้องกันและการบรรเทาอาการของโรค ได้แก่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคร่วมกับคำแนะนำอื่นๆ ดังนี้

 

 รับประทานอาหารตรงเวลา ไม่รับประทานอาหารจุบจิบในระหว่างมื้อ อาหารเย็นควรรับประทานให้เร็วขึ้น และไม่รับประทานก่อนนอน งดการทำกิจกรรมอื่นๆ ในขณะรับประทานอาหาร เช่น พูดคุยหรือดูโทรทัศน์ เป็นต้น

 

 

 รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ที่มีประโยชน์และได้สัดส่วน หลีกเลี่ยงการรับประทนอาหารรสจัด อาหารหมักดอง มัน ทอด กะทิ อาหารทะเล เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ที่ย่อยยากและมีปริมาณมากเกินพอดี

 

 

 รับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและมีกากใยปริมาณพอสมควร เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดอาหารที่ตกค้างในลำไส้ ซึ่งจะช่วยลดลมที่เป็นสาเหตุของอาการท้องอืดท้องเฟ้อ นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้สูงอายุเคี้ยวอาหารอย่างช้าๆ เพื่อช่วยการย่อย และพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน เนื่องจากฟันมีความสำคัญต่อการบดเคี้ยวและย่อยอาหาร

 

 

 หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีน โดยเด็ดขาด

 

 

 หลังรับประทานอาหาร แนะนำให้อยู่ในท่าตัวตรง (ยืน เดิน หรือนั่งหลังตรงโดยไม่งอตัว) เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันอาหารไหลย้อนกลับจากกระเพาะอาหารและทำให้เกิดอาการจุกเสียดแน่นท้อง

 

 

 ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกรณฑ์ดัชนีมวลกายมาตรฐาน

 

 

 หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป เนื่องจาเป็นสาเหตุทำให้มีกรดไหลย้อน ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการจุกแน่นท้องได้

 

 

 ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา เนื่องจากยาบางชนิดทำให้เกิดอาการข้างเคียงในระบบย่อยอาหาร เช่น  ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยาแก้ปวดลดอักเสบที่ไม่ใช่สเตรียรอยด์ (NSAIDs) ยาสเตียรอยด์ ยาละลายลิ่มเลือดแอสไพริน ยาขยายหลอดลม และยารักษาโรคหัวใจบางชนิด

 

 

 รับประทานยาลดกรด ยาขับลม หรือยาช่วยย่อยตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ เพื่อบรรเทาอาการและช่วยสมานแผลในกรณีที่มีแผลในกระเพาะอาหาร แต่หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์

 

 

 สมุนไพรบางชนิดมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหารและขับลม ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ อาทิ กระเทียม ขมิ้นชัน พริกสด ข่า ตะไคร้ ใบกระเพรา เป็นต้น

 

 

พฤติกรรมการบริโภคมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกัน และบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อในผู้สูงอายุ ดังนั้น ผู้สูงอายุควรใส่ใจเรื่องอาหารการกินและสังเกตความผิดปกติของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์โดยเคร่งครัด และหากอาการท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อยเป็นเรื้อรัง ควรพบแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุอื่นเพิ่มเติม

 

 

 

นพ.คมน์สิทธิ์ เดชะรินทร์

แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting romrawin รมย์รวินท์ ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime อัลเทอร่า Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน กำจัดขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ เลเซอร์ขนรักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขนถาวร เลเซอร์ขน กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Pico Pico NCTF 135 HA Rejuran Belotero Revive Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra Sculptra Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse UltraClear Aviclear Laser AviClear Laser Aviclear Aviclear AviClear Accure Laser Accure สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Fit Firm Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite NAD+ therapy NAD+ ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน Vaginal Lift Apex