
© 2017 Copyright - Haijai.com
ควรจะให้ลูกน้อย เข้าโรงเรียนเมื่อไหร่ดี
เป็นคำถามที่มักได้ยินเสมอจากคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ จริงๆ แล้วไม่มีคำตอบที่ตายตัวเนื่องจากสภาพแวดล้อม ของแต่ละครอบครัวไม่เท่าเทียมกัน เด็กวัยก่อน 3 ขวบ ควรอยู่ใกล้ชิดกับคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นดีที่สุด บางครอบครัวคุณพ่อหรือคุณแม่มีเวลาดูแลลูก อันนี้ไม่รวมถึงผู้ดูแลเด็กหรือพี่เลี้ยง มีเวลาที่จะสอนและขัด เกลาระเบียบวินัย สร้างอุปนิสัยที่ดีให้ลูก ซึ่งพี่เลี้ยงมักไม่กล้าทำหรือทำไม่เป็น เด็กวัยก่อน 3 ขวบจะเริ่มมีความสนใจ อยากรู้อยากเห็นและมีความกระตือรือร้นมาก จึงต้องการคนคอยบอกคอยสอนเพื่อให้เขาแสดงออก ไปในทางที่ถูกที่ควร ให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เรื่องนี้มี ความละเอียดอ่อน และต้องมีกลยุทธ์ที่แยบยลมาก เพราะสิ่งที่ลูกได้เรียนรู้จะเป็นพื้นฐานอุปนิสัยต่อไปใน อนาคตด้วย เรียกว่าพ่อแม่ต้องคอยคิดคอยสอนกันแบบตาไม่กะพริบเลยทีเดียว
แต่ในชีวิตความเป็นจริงในปัจจุบัน คุณพ่อหรือคุณแม่หลายคนอาจไม่มีเวลามาทำตรงนี้ โรงเรียนจึงเป็นอีกทางเลือกที่จะเข้ามาอบรมบ่มนิสัยให้ลูกเราได้ ดิฉันเชื่อว่าทุกๆ โรงเรียนอนุบาลที่เปิดมาย่อมมีความเป็นมืออาชีพในด้านนี้อยู่แต่ว่าจะมากหรือน้อยนั่นเป็นอีก เรื่องหนึ่ง
ดิฉันจึงมักตอบคำถามที่ว่า “เมื่อไหร่ลูกควรจะไปโรงเรียนดี” ว่า “เมื่อคุณพ่อคุณแม่พร้อม” เพราะการพาลูกน้อยไปเข้าโรงเรียนอนุบาลเป็นการตัดสินใจของพ่อแม่โดยแท้ ที่คิดบวก ลบ คูณ หารแล้วว่าใครควรจะเข้ามาดูแลปลูกฝังอบรมบ่มนิสัยลูกได้ดีกว่า กรุณาอย่าถามลูกวัย 2-3 ขวบว่าอยากไปโรงเรียนหรือยัง เพราะหัวใจและความคิดน้อยๆ ของลูกนั้นยังคิดให้รอบคอบมีเหตุมีผลไม่ได้
คุณพ่อ คุณแม่ต้องมีความพร้อมอย่างไร
• พร้อมที่จะทำใจให้ลูกแยกออกจากครอบครัววันละ 5-6 ชั่วโมง การส่งลูกไปโรงเรียนแล้วยังพะวงว่าลูกจะอยู่ได้ไหมคนเดียว จะทำให้คุณพ่อ คุณแม่มีพฤติกรรมต่างๆ นานา เช่น ส่งคนเลี้ยงมาอยู่ด้วย มาแอบมองจนลูกจับได้ แล้วร้องไห้ตามกลับบ้าน แน่นอนว่าลูกต้องอยากอยู่กับคนที่บ้านมากที่สุด ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะยอมมาเข้ากลุ่มสังคมอื่นในโรงเรียน จะต้องแยกให้ชัดเจนคะว่า ลูกอยู่ที่บ้านจะเจอคนที่บ้าน และอยู่ที่โรงเรียนจะเจอคนที่โรงเรียน
• พร้อมที่จะเข้มแข็งและเป็นที่พึ่งทางใจให้ลูกได้ ลูกน้อยมาโรงเรียนต้องร้องไห้แน่นอน ถ้าไม่ร้องไห้เรียกว่าผิดปกติค่ะ
• ลูกอาจจะร้องเป็น 2-3 อาทิตย์ หรือเป็นเดือน เมื่อคุณพ่อคุณแม่พามาส่งที่โรงเรียน ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าลูกไม่ชอบโรงเรียน แต่หมายความว่าลูกอยากอยู่กับคุณพ่อคุณแม่มากกว่าอยู่ดี คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้มแข็งและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนที่โรงเรียนในการปลอบโยนลูก ให้ความอบอุ่นลูก และคุณพ่อคุณแม่จะต้องยอมเดินหันหลังกลับบ้าน เพราะถ้าเราเข้มแข็ง อีกสักพักลูกก็จะเก่งเองค่ะ
• พร้อมที่จะยอมให้ลูกน้อยได้ช่วยตัวเองตามศักยภาพของวัย คุณพ่อ คุณแม่ส่วนใหญ่มักอดไม่ได้ที่จะไม่ช่วยลูกในทุกๆ เรื่อง เช่น ในเรื่องการทานอาหารเอง ใส่รองเท้าเอง หิ้วกระเป๋าเอง หรือการเดินเองโดยไม่ต้องอุ้ม เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ทั้งนั้น นักอนุบาลมืออาชีพจะกระตุ้นให้เด็กได้ทำเอง เพื่อสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ การคิด การตัดสินใจ การคาดคะเน ฯลฯ
• พร้อมที่จะฝึกให้ลูกตรงต่อเวลา เด็กที่มาโรงเรียนสายหลังชั้นเรียนเริ่มแล้ว มักมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน คือ งอแง ซึ่งเป็นธรรมชาติที่เราจะเห็นได้จากผู้ใหญ่ด้วย เช่นเวลาเราต้องเข้าไปในที่ประชุมที่เริ่มการประชุมไปแล้ว เราจะมีความกังวล กระดากอาย ไม่แน่ใจ หลายๆ ความรู้สึกระคนอยู่ ผู้ใหญ่จะไม่แสดงออกในรูปแบบงอแง แต่เด็กจะเป็นค่ะ ดังนั้นควรพาลูกเข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อจะได้ตื่นรับวันใหม่อย่างสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และไปให้ทันก่อนเริ่มเข้าเรียน
เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีความพร้อมดังกล่าวข้างต้นแล้ว นั่นจึงเป็นเวลาที่ควรส่งลูกไปโรงเรียนได้แล้วค่ะ
(Some images used under license from Shutterstock.com.)