
© 2017 Copyright - Haijai.com
กรดไขมันพิเศษ คุณค่าเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสมอง
ไขมันมีความสำคัญมากสำหรับเจ้าตัวเล็ก เพราะนอกจากไขมันจะให้พลังงานแล้ว ยังช่วยให้วิตามินที่ละลายในไขมันถูกดูดซึมได้ดีขึ้นนอกจากนี้แล้วถึงแม้สมองของเจ้าตัวเล็กหลังคลอดทันที จะมีเซลล์ประสาทครบถ้วนแล้ว แต่การเชื่อมโยงของสายใยประสาทยังไม่ดีนัก จึงทำให้เด็กไม่สามารถสั่งงาน และเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ดีนัก การสร้างสายใยประสาทที่ดีทารกต้องได้รับอาหารครบถ้วนมีพลังงานเพียงพอ โดยเฉพาะกรดไขมันพิเศษ ซึ่งประกอบไปด้วย กรดไลโนเลอิก กรดอะรัชชิโดนิค (AA) และกรดโดโคซาเฮกสาอีโนอิก (DHA) กรดไขมันพิเศษเหล่านี้ ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเซลล์สมองและประสาทตา
กรดไขมันไลโนเลอิค จะช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง ซึ่งเรียกว่า Eczema เด็กที่ขาดกรดไลโนเลอิคจะมีอาการผิวหนังแห้ง แตกและหนา อาหารที่เป็นแหล่งของกรดไลโนเลอิคที่สำคัญก็คือ “น้ำนมแม่” ซึ่งมีกรดไลโนเลอิคถึงร้อยละ 10 ของไขมันทั้งหมด ในขณะที่นมวัวมีกรดไลโนเลอิคเพียงร้อยละ 2 นอกจากนี้แล้ว น้ำนมแม่ยังมีเอนไซม์ไลเปส ซึ่งช่วยในการย่อยไขมัน ทำให้ไขมันในน้ำนมแม่เป็นไขมันที่ย่อยและดูดซึมได้ง่าย
นอกเหนือจากน้ำนมแม่แล้ว กรดไลโนเลอิคยังมีอยู่ในอาหารที่ใช้น้ำมันซึ่งจะมีกลิ่นเหม็นหืนง่าย เราจะพบกรดไขมันชนิดนี้ ในอัตราส่วนที่สูงในน้ำมันเมล็ดทานตะวัน (66%), น้ำมันถั่วเหลือง (63%) และน้ำมันข้าวโพด (61%) เป็นต้น
กรดไขมัน AA จะเป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์ทั่วร่างกาย จะพบมากในสมอง จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการทางสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่จนถึง 2 ปี แม้ว่าร่างกายเจ้าตัวเล็กจะสามารถสร้างกรดไขมัน AA ได้จากกรดไลโนเลอิก แต่จำนวนที่สร้างไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายและสมองที่มีการเจริญเติบโตมากในช่วง 1 ปีแรก ดังนั้นหากเป็นไปได้คุณพ่อคุณแม่อาจเสริมกรดไขมันที่จำเป็นให้แก่เจ้าตัวเล็กได้ค่ะ โดยกรดไขมัน AA นี้จะพบมากในน้ำนมแม่และในอาหารที่มีไขมันสัตว์และเนื้อสัตว์ทั่วไป
กรดไขมัน DHA (Decosapentaenoic acid) หรือน้ำมันปลา เป็นกรดไขมันที่มีหน่วยเล็กที่สุด เป็นกรดไขมันสายยาวตระกูลโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาสมองโดยเฉพาะด้านความจำ การเรียนรู้ และประสาทตา ทั้งนี้เชื่อว่าสาร DHA ผ่านเข้าไปในสมองและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาท ที่เรียกว่าเดนไดรต์ (dendrite) ซึ่งจะทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน ทำให้เกิดความจำและการเรียนรู้ ทั้งนี้ในสมองและประสาทตาของคนเราประกอบไปด้วยกรดไขมันหลายชนิด แต่ชนิดที่มีมากที่สุดถึง 40% ของกรดไขมันในสมอง และ60% ของกรดไขมันในประสาทตา ก็คือ DHA
อาหารที่อุดมไปด้วย DHA สำหรับเจ้าตัวเล็กนอกจากน้ำนมแม่แล้ว ก็คือ ปลาทะเล (Deep Sea Fish) เช่น ปลาทูน่า ปลาโอลาย ปลาทู ฯลฯ การบริโภคปลาทะเลประมาณ 30 กรัมต่อวันและ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะสามารถเพิ่มกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า-3 ในอาหารได้สูงถึง 0.2-0.5 กรัมต่อวัน ซึ่งหมายถึงได้รับสาร DHA สูงขึ้นด้วย เนื่องจากมีมากในกรดไขมันดังกล่าว สำหรับในประเทศไทย ปลาทะเลที่พบว่ามีกรดไขมันชนิดโอเมก้า-3 ปริมาณสูงได้แก่ ปลาทู ประมาณ 2-3 กรัมต่อเนื้อปลา 100 กรัม ปลาอีกา ปลากระพง ปลาตาเดียว มีประมาณ 0.5-2 กรัมต่อเนื้อปลา 100 กรัม หรือสามารถบริโภค DHA ในรูปของน้ำมันสกัดจากผลิตภัณฑ์ทางทะเลก็ผสมในนมผงได้อีกด้วยค่ะ
กล่าวได้ว่าอาหารที่มีกรดไขมันที่จำเป็นอย่างครบถ้วน สำหรับการพัฒนาสมองของเจ้าตัวเล็กก็คือแหล่งที่หาง่าย และใกล้ตัวของคุณพ่อคุณแม่มากที่สุดก็คือ น้ำนมแม่นั่นเองค่ะ เจ้าตัวเล็กที่ได้รับประทานนมแม่ในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากจะมีพัฒนาการสมองที่ดีแล้ว เจ้าตัวเล็กจะได้มีภูมิต้านทานเชื้อโรคที่ดีด้วยค่ะ
(Some images used under license from Shutterstock.com.)