© 2017 Copyright - Haijai.com
พัฒนาอย่างรอบด้าน
ขอสรุปและเน้นว่า การพัฒนาสมองของเด็กต้องเน้นการพัฒนาเด็กทั้งคน ทุกๆ ด้านให้สมดุลกัน ซึ่งมีอยู่ 4 ด้าน คือ พัฒนาการด้านร่างกาย ซึ่งนับเป็นฐานแรก เพราะถ้าเด็กมีร่างกายอ่อนแอ เจ็บออดแอด มันก็เป็นตัวบั่นทอนการพัฒนาสมองได้ แต่ถ้าร่างกายเขาแข็งแรงสมบูรณ์ เขาก็มีโอกาสที่ดี
ด้านที่สองคือ พัฒนาด้านสติ-ปัญญา คำว่าสติปัญญาก็คือความสามารถต่างๆ ที่จะควบคุมให้มีสมาธิ ให้มีความสามารถในรับรู้ ในการควบคุมความสนใจ ความเข้าใจ ในการจำแนกความแตกต่าง แล้วก็ตอบสนองพฤติกรรมต่างๆ เหล่านั้นได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง
โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสติปัญญาของเด็ก ปัจจุบันเราพบว่าเด็กมากกว่า 1 ใน 100 คน จะเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางสมอง จากงานวิจัยของนักวิจัยประเทศสหรัฐฯ มีการค้นพบว่า เด็กกลุ่มที่มีความบกพร่องนี้อาจจะมีสาเหตุเกี่ยวพันกับมลภาวะ โดยเฉพาะสารตะกั่ว หรือยาฆ่าแมลง ในสิ่งแวดล้อม เพราะได้มีการทดลอง โดยเอาสารตะกั่วผสมอาหารให้สัตว์กินตั้งแต่ตอนเล็กๆ ปรากฏว่าสัตว์ที่กินเข้าไปจะมีความบกพร่องในด้านความสนใจ (Attention deficit) และก็มีพฤติกรรมที่ผิดปกติไป เราจึงควรต่อต้านไม่ให้มีสารตะกั่วในสิ่งแวดล้อมมากนัก และยังมีหลักฐานหลายชิ้นที่บ่งชี้แน่ชัดแล้วว่า มลพิษโดยเฉพาะสารตะกั่วในสิ่งแวดล้อมนี้ทำให้เด็กมีสมาธิสั้นมากขึ้น และกลายเป็นเด็กที่มีความบกพร่องในด้านการเรียนรู้ เราจึงควรช่วยกันต่อต้านไม่ให้มีสารตะกั่วในสิ่งแวดล้อมมากนัก
อีกประการหนึ่งที่ผมต้องการเห็นนอกเหนือจากพัฒนาการด้านร่างกายและสติปัญญาแล้ว คือด้านที่ 3 พัฒนาการด้านอารมณ์ และด้านที่ 4 คือ พัฒนาการด้านสังคม พัฒนาการทั้ง 4 ด้านนี้ควรได้รับความสนใจและพัฒนาไปเท่าๆ กันด้วย เพราะว่าถ้าเราเน้นทางด้านความเฉลียวฉลาดอย่างเดียว แต่ในขณะเดียวกันเขาไม่สามารถปรับอารมณ์ตัวเองได้ เช่น ดีใจก็ดีใจสุดขีด เสียใจก็เสียใจสุดขีด ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ เด็กก็จะมีปัญหาทางด้านการเข้าสังคม ชีวิตในอนาคตของเขาก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
เมืองไทยของเราทุกวันนี้เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เพราะคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในสังคมไทย ไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุด ในสังคมของเราคนที่เรียนเก่งที่สุดยังมักจะไม่ใช่คนที่ประสบผลสำเร็จที่สุดในชีวิต ฉะนั้นการทีจะประสบความสำเร็จในชีวิตจึงไม่ได้อยู่ที่การเป็นคนเก่งหรือเรียนดีอย่างเดียว เนื่องจากผู้ที่จะประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิตได้นั้นมิใช่อยู่ที่ความเฉลียวฉลาดทางด้านวัตถุ หรือการตอบแก้ปัญหาในห้องสอบเท่านั้น หากยังอยู่ที่ความฉลาดคิดในด้านการควบคุมและทักษะ ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) และเรื่องจริยธรรมและมโนธรรมทางสังคมอีกด้วย และยังต้องพัฒนาด้านสังคม และมนุษย์สัมพันธ์ อีกด้วย
การที่เราจะพัฒนาให้เด็กฉลาดล้ำเลิศ จึงต้องพัฒนาไปทั้ง 4 ด้าน คือด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคมพร้อมกันด้วย ซึ่งจะพูดไปแล้วก็คือการพยายามพัฒนาสมองในทุกๆ ด้าน จึงจะประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะแม้แต่คนที่มีพรสวรรค์ก็ไม่แน่ใจว่าจะประสบความสำเร็จได้ เราจะพบว่าชีวิตของอัจฉริยะบุคคลในด้านต่างๆ นั้น เบื้องหลังความสำเร็จของเขา เป็นเพราะมีผู้สนับสนุนที่ดีคอยช่วยเหลือเขาด้วย เช่น ไอน์สไตน์หากไม่มีภรรยาคอยทำอาหารให้กิน หรือจัดการเรื่องต่างๆ ให้ ก็คงจะสำเร็จได้ยาก เพราะไอน์สไตน์จะคิดเรื่องคณิตศาสตร์อย่างเดียวโดยไม่ชอบทำอย่างอื่นๆที่ไม่สนใจเลย เช่น เขาไม่สามารถ ไม่ชอบทำกับข้าวหรือขับรถเอง เป็นต้น
ดร. นัยพินิจ และ พญ. นิตยา คชภักดี
(Some images used under license from Shutterstock.com.)